เรื่มจากรู้สึกว่ากอง plamo ที่มีอยู่เริ่มเยอะ เลยทำการย้ายเข้าตู้ไป แล้วพบกับว่า … ได้หนึ่งตู้พอดิบพอดี เลยสำนึกได้ว่า ควรเอามาทำให้เป็นรูปร่างได้แล้ว [2014JUNE]
เลยทำการเริ่มจาก series ที่ได้มาตอน sales hlj มาสักพักนึง + ตัวที่ไปหามาโดนราคาเต็ม 1 ตัว
⦁ German Panzer 38(t)
⦁ German Panzer IV F2 spec
⦁ German Porche Tiger “Tiger (P)”
⦁ IJA Type 89 “I-Go”
ตอนแรกๆก็กะทำประกอบโชว์ไปเรื่อยๆนั่นล่ะ โดยเรื่อมจาก Panzer 38(t) ก่อนเนื่องจากเป็น light tank จะได้เอามาลองฝีมือหลังจากไม่ได้ต่อมานาน
พอดีได้โอกาสไปเดินสะพานเหล็ก เหลือบเห็นรถถังวิทยุบังคับ size เล็กราคาพอประมาณ
พอเดากันออกไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น …
ใช่แล้วครับ เหมามาสี่คันรวดเพื่อเอามาประกอบกับรถถังที่กะลังต่ออยู่
เริ่มกันเลยดีกว่า เดี๋ยวจะน้ำเยอะ
เริ่มจากของง่ายๆเล็กๆที่ประกอบเสร็จก่อนจะได้
German Panzer 38(t)
ด้วยนิสัยเสียส่วนตัวก่อนจะประกอบอะไรนั้นต้องหาข้อมูลและประวัติกันก่อน
Panzer 38(t) นั้นต้นกำเนิดจาก Czech ครับ ไม่ใช่จาก german โดยตัว t นั้นหมายถึง tschechisch (Czech ในภาษา german) โดยเป็นการออกแบบโดย CKD ตั้งแต่ก่อน WWII มีอาวุธหลักเป็นปืนขนาด 3.7 cm KwK 38(t) L/47.8
สายการผลิตของ panzer 38(t) นี้เริ่มขึ้นหลังจากการล่มสลายของ Czechoslovakia และโดนยึดครองโดย german กองทัพ german ได้สั่งให้มีการผลิตรถถังเป็นจำนวนมาก ซึ่ง panzer 38 ก็เป็นหนึ่งในนั้น
Panzer 38(t) นั้นพบเห็นได้แทบทุกสมรภูมิของ WWII ตั้งแต่เริ่มแรก และเป็นหนึ่งใน model ไม่กี่แบบที่ทำการส่งออกไปขายแก่กลุ่ม axis ด้วยกันเอง โดยตัวรถนั้น ผลิตออกมาเป็นจำนวนมากจนทำการหยุดสายการผลิตรูปแบบรถถังไปในปี 1942 [พื้นฐานของการออกแบบถูกนำไปใช้ในการพัฒนา Marder III Jagdpanzer 38(t) (Hetzer) และ Flakpanzer 38(t)]
สมรภูมิเริ่มต้นของ panzer 38(t) นั้นเริ่มตั้งแต่การบุก Poland ในฐานะรถถังเบาที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยที่มีเกราะหนากว่า panzer I และ panzer II แถมด้วยมีอำนาจการยิงที่จะยิงทะลุเกราะส่วนหน้าของรถถังขนาดกลางและรถถังหนักในยุคนั้นได้
การใช้งาน panzer 38(t) เริ่มมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเผชิญกับรถถังที่มียุคสมัยใหม่กว่าอย่าง T-34 ตอนที่ german ทำการบุกสหภาพโซเวียดเมื่อปี 1941 ที่ german ได้สูญเสียทั้งรถถังและบุคลากรไปอย่างมากมาย โดยหลังจากนั้นมาในปี 1942 panzer 38(t) ได้ถูกใช้งานเป็นรถถังสำหรับการลาดตระเวณ การฝึก และการรักษาการณ์ความปลอดภัยภายในเป็นส่วนใหญ่
มาว่ากันด้วยตัว model กันเลยดีกว่า
ตัว model นั้นถึงจะปั๊มตรา Platz แต่ไส้ไนเป็นของ Dragon ครับ
instruction การประกอบไม่ซับซ้อนมากตามแบบรถถังทั่วๆไป (ของ Dragon รายละเอียดดีกว่าของ tamiya นะครับ แต่พลาสติกจะบางและยืดหยุ่นได้ดีกว่าหน่อย) อารมณ์ประกอบเหมือนกับการประกอบ HG แต่มีชิ้นส่วนเล็กๆมากกว่า แถมยังไม่ใช่ snap fit แบบ gunpla ดังนั้นที่อยากแนะนำคือไปหาถาดมารองก่อนตัดออกจากแผงและประกอบ
ถาดแบบนี้อยากจะแนะนำให้หามานะครับ พลาสติกหรือ aluminium ก็ได้ กันหลุดมือแล้วกลิ้งหายได้ชะงัด ผมต่อ plamo และ nanoblock ได้ถาดนี้ช่วยชีวิตไปหลายที
ตัว model ที่ให้มาอย่างที่ว่าไว้ว่าเป็นของ dragon ที่ปกติแล้วจะมีอุปกรณ์ตกแต่งภายในมาให้ด้วย ซึ่งกับตัว panzer 38(t) ver girl und panzer ตัวนี้ก็มีมาให้นะครับ แต่ตัว instruction ที่ให้มาไม่มีวิธีประกอบ ดังนั้นเราจึงใช้วิธีง่ายๆ.... หาใน google ครับ มีแน่นอน หรือไม่ก็แนะนำให้ไปค้นใน hobby search เอาครับ
มาดูตัว Model เลยดีกว่า พอดีตอนทำไม่ได้ค่อยๆถ่ายรูปขั้นตอนไว้ ขอละไว้ก่อนละกัน ไว้แก้ตัวคันข้างล่าง
ตัวนี้ขั้นตอนการทำง่ายๆครับ ถือว่าชิมราง ตัว model ประกอบแล้วเหลื่อมนิดๆ เอากระดาษทรายเล็มๆก็เรียบได้หมดครับ โดยตัวที่ซื้อมาตัวนี้ได้มาเป็นตัวพิเศษสีทองครับ (ราคาโล๊ะที่ตอนซื้อมาถูกกว่าแบบปกติเยอะมาก เลยตัดสินใจเอาตัวนี้) เลยไม่ทำอะไรมาก
1-ประกอบ ขัดแต่ง
2-พ่นด้วย flat claer สองชั้น
3-พ่นภายนอกด้วย gold layland
4-พ่น flat clear ทับ 1 ครั้ง
5-ติด decal และทาสีตบแต่งด้วยสี acylic (พวก part คีม พลั่วทั้งหลาย)
6-พ่น flat clear อีกครั้ง
7-จบละครับ แค่นั้นจริงๆ
อย่างที่เห็นนะครับ ภายในกับส่วนที่สีทองพ่นไม่ค่อยถึงจะเป็น gold chrome ที่มากับแผง ซึ่งผมปล่อยไว้แบบนั้น เพราะว่าดูแล้วสวยไปอีกแบบ
ต่อกันด้วย Tiger (P) กันเลยดีกว่าครับ
มาดูประวัติกันก่อนเลยครับ
Tiger (P) นั้นเป็นต้นแบบในการคัดเลือกรถถังหนักของ german ในช่วงปลายๆของ WWII หลักจากรถถังหลักอย่าง Panzer III และ Panzer IV ได้เผชิญหน้ากับรถถังยุคใหม่และมีประสิทธิภาพกว่าอย่าง T-34 และ KV-1
concept ของรถถังรุ่นใหม่นี้ ถูกออกแบบให้สามารถต่อกรได้กับรถถังหนักของสหภาพโซเวียดอย่าง KV-1 โดยวางตัวปืน 8,8 cm KwK 36 L/56 เป็นอาวุธหลัก
การแข่งขันการคัดเลือกระหว่าง Porche VK 45.01 (P) และ Henschel & Son VK 36.01 (H) จบลงด้วยชัยชนะของ Henschel & Son
ด้วยที่รถถังของ Porche แม้จะมีเกราะหนากว่า แต่กลับมีเครื่องยนต์ที่กำลังน้อย ช่วงล่างที่กระจายแรงได้ด้อยกว่า แถมเครื่องยนต์ยังขาดความเชื่อถือ
หลังจาก Porche แพ้การคัดเลือกแล้ว สายการผลิตที่เตรียมไว้ได้ถูกปรับเปลี่ยน โดยนำโครงสร้างช่วงล่างไปทำการผลิตเป็น
Panzerjäger Tiger (P) "Ferdinand" และ
Panzerjäger Tiger (P) "Elefant"
ดังนั้น Tiger (P) ที่ปรากฎตัวนั้น มีบันทึกไว้อยู่คันเดียว ซึ่งลงสมรภูมิในฐานะรถถังบัญชาการของหน่วย Ferdinand
มาดูตัว model กันเลยครับ
ตัว model นั้นถูกจับใส่กล่องของ Platz และไส้ในเป็นของ Dragon แต่คราวนี้ ไม่มีอุปกรณ์ภายในมาให้ด้วย
ตัวแผงนั้น pack มาเป็น Elefant กับ Tiger (P)
ด้วยความที่ตัวรใหญ่ ทำให้ยัดรถถังบังคับไปได้เลย ด้วยความขี้เกียจเลยเจาะแล้วยัดเข้าไปเลยครับ
ตัว model ประกอบได้แบบไม่ต้องกังวลมาก ชื้นใหญ่ พลาสติกหนาๆ ไม่มีเหลื่อมมาก ตัด ขัด
หลังจากติดระบบ RC เข้าไปและ test run แล้ว
ทำสีตามนี้เลยครับ
1-พ่นรองพื้นด้วย flat black เพื่อดูแนวประกอบ
2-ตัดแต่งรอย พ่น flat black อีกรอบ
3-ขัดกระดาษทรายละเอียดทั่วคัน แล้วลงสี ด้วย German Gray 90% + Midnight Blue 10%
4-พ่นทับด้วย clear ด้าน
5-ติด decal + dry brush ตามขอบกับสายพานด้วย Steel และแต่งเติมชื้นส่วนเล็กๆด้วยสี acylic
6-ปิดทับด้วย clear ด้าน
เปรียบเทียบกับ light tank ครับ
ต่อด้วย Panzer IV ครับ
Panzer IV นั้นมีบทบาทที่สำคัญกับกองทัพเยรมันมากๆ ในสมัย WWII ครับ แต่เริ่มเดิมทีนั้นถูกออกแบบให้ลงสนามรถในฐานะรถถังขนาดกลางที่เอาไว้สนับสนุนทหารราบ โดยเป็นอีกหนึ่ง model ที่มีการผลิตมากที่สุดในการใช้งานระหว่างสงคราม รวมถึงมีการส่งออกไปยังกลุ่มอักษะ และมีการใช้งานอย่างกว้างขวาง เนื่องด้วยความสามารถกลางๆของมันเองนี้ ภายหลังถูกปรับแต่งหลายครั้ง และถูกตั้งแทนที่ Panzer III ที่แต่ต้นถูกตั้งไว้ให้เป็นรถถังที่มีไว้ต่อกรกับรถถังด้วยกัน แต่หลังจากการบุกสหภาพโซเวียดและได้เจอกับ T-34 แล้วนั้น ฐานะของ Panzer IV ก็ถูกเปลี่ยนไป โดยมีการเสริมโครงสร้างให้เกราะหนาขึ้นรวมถึงปรับเปลี่ยนอาวุธหลัก อย่างเช่น F2 นี้ถูกปรับให้ปืนหลักเป็นปืนความเร็วกระสุนสูงเพื่อให้ต่อกรกับยานเกราะรุ่นใหม่ๆได้
model ตัวนี้เป็นของ Platz และไส้ในเป็น dragon อีกแล้วครับ
โดยตัวนี้ไม่มีแถมเครื่องตบแต่งภายในเช่นเดียวกับ Tiger (P) [ก็พอเข้าใจครับ ราคาหน้ากล่องของ model girl und panzer ถูกกว่าของ dragon ที่ให้มาเต็มรูปแบบเกือบครึ่ง]
ตัว model ทำง่ายเหมือน Panzer IV ครับ มีลำบากหน่อยก็ชื้นส่วนเล็กๆที่เล็กกว่า
เนื่องจากหลังๆที่ผมประกอบ gunpla นั้นจะใช้แม่เหล็กเป็น hard point เป็นหลักเลยซื้อมา stock เยอะ เลยเอามาทำเป็นตัว lock พวกฝาปิดซะเลย
ด้วยที่ว่าเอารถถังบังคับที่ซื้อมาใส่เข้าไปได้พอดี จึงทำการเปลี่ยนแกนขับให้เป็นเหล็ก 2mm แล้วประกอบกับ model ด้วยลูกปืนครับ (หาสองอย่างนี้ได้ง่ายๆจาก ebay)
ประกอบและ test run เสร็จ ก็มาถึงการทำสีครับ
1-เช่นเคย รอพื้นก่อนด้วยสี flat black ครับ (คันนี้พ่นหนาไปหน่อย เลยดูมันไปเลย)
2-พ่นสีหลักด้วย German Gray 90% + Wood Brown 10%
3-พ่นทับด้วย Clear ด้าน
4-ตบแต่งด้วย สี acylic ตามชื้นส่วน และ dry brush ด้วย Steel
5-ด้วยความหวังว่าสีจะด้านขึ้นจากการพ่น flat black พลาด เลยซ้ำ clear ด้าน อีกรอบ
6-ติด decal
7-พ่น clear ด้าน ทับปิดงาน
สุดท้าย สีก็ยังไม่ด้านเท่าไหร่ แต่ไม่แก้ดีกว่า เดี๋ยวจะเละกว่าเดิม
เปรียบเทียบกันสองคันก่อนหน้านี้
มาถึงคันสุดท้าย IJA Type-89 ที่ไปควานหามาเนื่องจากความชอบส่วนตัว
Type-89 ถือเป็นรถถังรูปแบบแรกที่จักรวรรดิ์ญี่ปุ่นสร้างขึ้นมาครับ โดยพัฒนาขึ้นเมื่อ 1925 ก่อนสงคราม sino-japanese ครั้งที่สอง และเป็นรถถัง model แรกของโลกใช้เครื่องดีเซล (Type-89B) เนื่องจาก IJA เล็งเห็นว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าเบนซินในขณะนั้น และด้วยอาวุธหลัก 57 mm Type 90 ที่ทำให้รถถังมีประสิทธิภาพพอตัวในแนวรบตะวันออก [ฟิลิปปินส์ สหภาพโซเวียด จีน] ซึ่งแนวรบทางบกด้านนี้การรบด้วยรถถังโหดน้อยกว่าฝั่งตะวันตกเยอะครับ เนื่องจากสมรภูมิไม่ได้เหมาะกับรถถังหนักขนาดใหญ่ ทำให้กองทัพบกญี่ปุ่นสามารถใช้งาน Type-89 ไปได้เรื่อยๆจนปลายสงครามก่อนที่จะเจอสหรัฐอเมริกา
มาดูที่ตัว model กันเลยครับ
model ตัวนี้เป็นของ finemold ที่มาทราบว่าจริงๆแล้วเป็น model ตัวเดียวกับ Armour Modelling November 2010 (Vol. 133) ตัวโมเดลเก่าพอควร แถมท่าทางแม่พิมพ์จะเริ่มมีปัญหาเนื่องจากมีเศษที่ฉีดเป็นแผงเกินมาด้วย ดีหน่อยที่แถมชิ้น photoetch มาให้ด้วย
เริ่มตัวนี้ก็ประกอบและใช้แม่เหล็กเป็นหลักในการปิดฝาต่างๆ
เนื่องจากตัว RC tank ที่ซื้อมานั้นใหญ่กว่า model เลยตัดแต่ส่วนของ gear มาใช้งานเป็น gear box แล้วก็แยกตัววงจรควบคุมออกมาต่างหาก และแก้ไขส่วนต้นกำลังด้วยการใช้แกนเหล็ก 2mm แล้วใช้ bearing 2mm ในการยึดติดกับตัว model
เมื่อประกอบเสร็จก็ test run ให้วิ่งได้จริงแล้วก็เริ่มทำสีตามนี้ครับ
1-ตามสูตรเดิม ใช้ flat black พ่นเป็นรองพื้น
2-กระดาษทราย 1000 ขัดเก็บรายละเอียด
3-พ่นสีหลัก Olive Drab 95% เพิ่ม green 5% เพื่อให้สีอ่อนมาหน่อยแบบใน anime
4-พ่นภายในด้วย สี Tan
5-พ่น clear ด้านทับ
6-ติด decal / paint พลั่ว + จอบ ด้วยสี acylic / dry brush สายพานและช่องเครื่องด้วย burst iron
7-พ่น clear ด้าน ปิดงาน
decal ที่มากับ finemold นี่รู้สึกว่าคุณภาพดีกว่า platz ครับ บางกว่า ติดง่ายกว่า แนบกับตัว model กว่า
เทียบระถัง 3 ระดับ 4 คันครับ
จบแล้วครับ
ปิด project ส่วนแรกไป
Project clear กล่องต่อไป น่าจะเป็น 1 ใน 3 ของกองนี้
ของที่ได้มาใหม่นี่ ไม่มีที่ให้เก็บแล้ว
PS. gunpla ยังต่อเรือยๆนะครับ แต่เริ่มขี้เกียจทำสีซะแล้ว (รวมถึง project zaku I sniper ที่ดองมาเกือบสามปี ก็ยังไม่ทำสี โดนลัดคิวตลอด)
