ผู้เขียน หัวข้อ: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 14 - Rule of nature!! [END]  (อ่าน 37252 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ naroki

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,268
  • Like: 544
  • Time and space with magic
[Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 14 - Rule of nature!! [END]
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2013, 10:02:00 PM »
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=Ja5iHWeRiuQ[/youtube]

ภาค 1 : Nineball : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=24368.0
ภาค 2 : Knight Gundam : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=24839.0
ภาค 3 : Nitigale : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=24940.0
ภาค 4 : Hi-Nu Gundam EVO : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=25214.0
ภาค 5 : XI Gundam : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=25419.0
ภาค 6 : Musha Gundam : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=25698.0
ภาค 7 : Soulgain : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=25763.0
ภาค 7 : White Glint + VOB : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=25892.0
ภาค 8 : Disastranagant : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=26294.0
ภาค 10 : Messela : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=28457.0
ภาค 11 : Genesis Gaogaigar :http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=28581.0


สำหรับตัวนี้ ก็เริ่มเหมือนเดิมคือการเอาพุตตี้เหลวไปทาตรงตามรอยตัดต่างๆ



อนึ่งก้เป็นการกำหนดไปด้วยเลยว่าต้องขัดตรงใหนบ้าง เพราะตัวนี้ตะเข็บค่อนข้างเยอะพอสมควร


ชิ้นส่วนที่ต้องอุดขัด มีแค่ด้ามปืนที่มาแทนของกันดั้ม 2.0 เดิม เพราะมือเป้นคนละแบบกัน
ซึ่งการทา ต้องระวังมากไม่ให้กาวใหลไปโดนส่วนที่เสียบที่ขยับไปมาได้ เคยใส่กาวมากไปบีบจนทะลักมาแล้ว


ในส่วนของการขัด  เนื่องจากตัวมันเหลี่ยมเยอะมาก  เลยจะใช้แผ่นพลาสติก ติดกระดาษทรายเป้นหลัก


ข้อดีของมันคือ สามารถใส่แรงได้มาก
เนื่องจากการขัดกระดาษทรายธรรมดา เราจะใส่แรงได้ไม่เต็มที่เพราะกระดาษทรายเป็นกระดาษ  การติดบนแผ่นพลาสติกที่หนาพอจะทำให้มันมีมวล ทำให้แรงที่เราใส่ไปใส่ได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า
คนที่ขัดโมจนชินมักจะชาชินกับการพับกระดาษทรายให้หนา เพื่อที่จะจับง่าย หรือรู้สึกว่ามันขัดง่ายขึ้น นั่นแหล่ะ ประมาณเดียวกัน
แต่ข้อเสียคือ มันจะกินเนื้อหนักกว่าเดิมนะ  ขัดมากไประวังด้วย เพราะแรงที่กระทำมากขึ้น นั่นคือกินเนื้อมากขึ้น และไม่สามารถขัดพวกชิ้นโค้งๆได้ ไม่งั้นขัดไปออกมาเหลี่ยมกันพอดี


การติดผมใช้กาวน้ำแหล่ะ  สำหรับกระดาษทรายน้ำก็โรยน้ำไปหน่อยก่อนขัดเพื่อให้เศษผงใหลไปตามน้ำ ยืดอายุกระดาษทราย ถ้ากระดาษเสื่อมก็ฉีกเปลี่ยนใหม่


พวกชิ้นส่วนที่มีการขยับ หรือมีโอกาศขรูด หรือถลอกกันเวลาขัด ก็ขัดกระดาษทรายลงเผื่อเอาใว้เลย


พวกตามเอวนี่แหล่ะ ด้านบนๆมีตะเข็บด้วยเหมือนกัน


พยายามสังเกตุน่ะครับว่าตรงใหนที่มันแหลมๆ ก็ขัดลบคมมันซะหน่อย  อย่างในรูป สันมันคมมากมีโอกาศถลอกหรือขรูดน่องก็ขัดลบคมมันซะหน่อย
จากการออกแบบแม่พิมพ์ คือตามสันพวกนี้จริงๆจะมีพวกรอยตะเข็บอยู่นะ  ถ้าไม่ขัดมันซะหน่อยจะทำให้สีถลอกง่าย


จะให้เข้าใจง่ายๆ คือหลักการออกแบบแม่พิมพ์ทั่วไป จะประกอบไปด้านเหล็ก สอง ซีก คือ ตัวแกน (Core) คือตัวด้านใต้ และตัวผิว (Cavity)


ทีนี้ ในการออกแบบอย่างง่าย ตรงจุดเชื่อมระกว่าง แกน และ ตัวผิวนี่ ไม่ว่ากรณีใดๆ มันจะต้องเกิดครีบขึ้นมาแน่นอนอยู่แล้ว เพราะเป็นเหล็ก 2 อันมาประกบกัน
ซึ่งส่วนที่ประกบกัน ยังไงก็ต้องแหลมครับ ไม่งั้นไม่สามารถถอดแม่พิมพ์ได้ หรือจะต้องมีตะเข็บขึ้นมาบริเวณเหนือส่วนโค้ง


อย่างอันนี้ กระโปรง ตรงกระโปรงมุมจะมีลักษณะเป็น < ซึ่งจะทำให้มีตะเข็บตรงปลายแหลม เลยเลยต้องขัดตะเข็บตรงนี้ทิ้ง
ส่วนใหญ่เวลาสีถลอก มักจะเป็นตรงสันมุมของแม่พิมพ์ดังรูปบนๆนี่แหล่ะ เพราะสันมันจะมีความคมมาก
ที่ต้องระวังก็พวกตามเอว ตามกระโปรงนี่แหล่ะ


อีกอันก็พวกดีเทลตามร่องด้านข้างของแม่พิมพ์นี่แหล่ะ
หลายคนที่ต่อสามก็ก หรือพวก SD จะเข้าใจดี พวกดีเทลที่ไม่สามารถวอชได้ เนื่องจากว่าด้านข้างของแม่พิมพ์ไม่สามารถที่จะลากเส้นลึกได้ ไม่อย่างงั้นจะไม่สามารถถอดแม่พิมพ์ได้


ซึ่งสมมุติว่าถ้าจะต้องการให้ตรงด้านข้างๆของแม่พิมพ์เป็นร่องลึก จำเป็นที่จะต้องออกแบบแม่พิมพ์เป็น แบบเหล็ก 3 ชิ้น
ซึ่งจากโครงสร้าง ถ้าออกแบบโดยใช้เหล็กแค่ 2 ซีก ด้านบน-ล่าง เวลาถอดแม่พิมพ์จะทำให้เหล็กติดตรงร่อง
ซึ่งการทำเหล็กแบบ3ชิ้นนี้ ต้นทุนแพงครับ และออกแบบแม่พิมพ์ยากด้วย


ซึ่งโมบันไดมักทำการแก้ไขโดย......ทำเป็นดีเทลหลอกๆครับ.....  คือมีสันพอเห็นเป็นเส้น เวลาวอชมักวอชไม่ติด


ซึ่งถ้าอยากให้วอชง่าย ก็ต้องเดินลายลึกกันเอาเองครับ
ส่วนตัวผมใช้สันคัตเตอร์นี่แหล่ะ ขรูดเอา เพราะมันเล็กแหลมดี แต่ใช้บ่อยๆเปลืองตังเพราะคัตเตอร์อาร์ทไนฟ์จะบิ่นไว
ซึ่งพวกดีเทลหลอกๆนี้ วอชไม่ค่อยติดหรอกครับ และจพให้มาเดินเส้นทั้งตัวใหม่หมดก็ไม่ใหวเหมือนกัน สุดท้ายก็ลงกันดั้มมาร์คเกอร์เขียนเส้นหลอกๆเอาดีกว่า


ซึ่งเจ้าการดีไซนน์แม่พิมพ์แบบเหล็ก 3 ชิ้น หรือออกแบบแม่พิมพ์พิศดารหรือดีไซน์แปลกๆ มักจะเป็นค่ายโคโตครับ.....
ดังจะเห็นด้านข้าง ตรงก้านรันเนอร์จะเป็นขอบเหลี่ยมๆ เพราะให้เหล็ก ซ้าย-ขวา ถอดเข้า-ออกเวลาฉีดครับ ทำให้ดีเทลซ้ายขวาเป็นร่องลึกคมเป๊ะ แต่แม่พิมพ์เองก็เลยแพงตามด้วยเช่นกัน ทำให้โมโคโตแต่ละตัวแพงบ้าเลือดขึ้นทุกวันๆ


ซึ่งส่วนตัวชอบโมโคโตตรงนี้แหล่ะ พวกดีเทลหรือพวกการออกแบบแบบ 3 มิติจริงๆ โคโตออกแบบดีกว่าบันไดอีกนะ คือพี่แกออกแบบมาเน้นดีเทลอย่างเดียวแบบไม่ค่อยจะคิดเรื่องต้นทุนกันซักเท่าใหร่ ขนาดแยกน็อตต่อน็อตยังทำมาแล้ว เพราะให้ดีเทลที่เต้มประสิทธิภาพจริงๆแบบไม่เกรงใจคนซื้อหรือถามกระเป๋าตังคนต่อกันเลยทีเดียว


ซึ่งในพาร์ทดังรูป ถ้าดูดีๆจะเห้นรอยดีเทลนิดหน่อยเหมือนรอยน็อต แต่มีตะเข็บพาดตรงกลางดีเทลไปเลย
เพราะเหล็กแม่พิมพ์ถอดด้านบนกับด้านล่าง
พวกดีเทลน็อตเลยอยู่ตรงร่องตะเข็บแทน  ซึ่งมันเล็กมาก ยังไงขัดโดนกระดาษทรายนิดหน่อยหายหมดแน่นอน


ซึ่งพาร์ทตรงนี้เป็นด้านหลังแขน......ผมขัดทิ้งเรียบล่ะ ยังไงก็มองไม่เห้นล่ะนะ

ซึ่งถ้าเป็นโมโคโต ผมว่าพี่แกจะทำเป็นประกบหน้าหลังเพื่อเอาดีเทล.....หรือกรณีเลวร้ายสุดพี่แกอาจทำเป็นชิ้นส่วน 4 ชิ้น  เพื่อเน้นดีเทล ซ้ายขวาหน้าหลัง เอาแบบให้กระอักเลือดกันไปข้างนึง.


ว่ากันที่การขัดต่อ
พวกดีเทลระหว่างรอยตะเข็บต้องขัดกันดีๆ ไม่งั้นขัดน็อตหายวับไปแน่นอน


ดังจะเห็น ว่าโมเดลตัวนี้ตะเข็บเยอะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน



พวกตะเข็บที่ไม่มีดีเทลก็เอาคัตเตอร์ไสเอาเลย  แล้วค่อยเอากระดาษทรายขัดต่อ



เสร็จแล้วก็เหมือนเดิม ล้างน้ำกำจัดพวกฝุ่นหรือคราบต่างๆเตรียมพ่นสี



รอทิ้งให้แห้งซักวันสองวันรอให้แห้งดีจริงๆค่อยพ่น  ธรรมดาผมรอให้แห้งซักสองวันในที่ร่มนะ เพราะไม่กล้าเอาไปตากแดดอ่ะ.....
ตอนแยกชิ้นก็แยกถาดกันดีๆหน่อย เพราะสีมันค่อนข้างลายตา เทาแก่กับขาวพอแยกง่าย แต่ขาวกับเทาอ่อนนี่แยกยากพอสมคววรนะ  แยกผิดนี่คงมีเซงกันพอสมควร......
รอบหน้าก็พ่นสีเหมือนเดิม.......  แต่เห็นชิ้นส่วนแล้วคงต้องวอชแบบแยกชิ้นส่วนกันเป้นชิ้นๆแน่นอน เพราะชิ้นส่วนบางและเล็กมากหลายจุด ถ้าวอชตอนเป้นคัวนี่แตกแหงๆแบบไม่ต้องสงสัย....

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=OGDh81kkhWE[/youtube]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2013, 09:13:43 PM โดย naroki »

สร้างเพจละนะ
https://www.facebook.com/Narokiastray/

ออฟไลน์ NeoX

  • กัน-โอตะ
  • *****
  • กระทู้: 1,470
  • Like: 41
  • เพศ: หญิง
  • HG Collecter [BlAcK] เถิดเทิง
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 10 - Calling to the night
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2013, 10:11:01 PM »
ฟิตสุดๆ เลยน่ะ ช่วงนี้..

ออฟไลน์ kana-art

  • กัน-โอตะ
  • *****
  • กระทู้: 1,648
  • Like: 13
  • เพศ: ชาย
  • I'm Always Out Numbered But Never Out Manned
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 10 - Calling to the night
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2013, 10:24:45 PM »
ขยันจริงๆ เลย  :iconlol: จบโปรเจ็คหนึ่งก็ต่องานใหม่แล้ว

ไอ้เราสิงานเข้าตลอด ไม่ทันไรก็ถึงรอบปิดส่ง ภงด.51 อีกแล้ว :iconcry:


ออฟไลน์ Me_Me

  • Verified User
  • ฝึกพ่นสีกระป๋อง
  • *
  • กระทู้: 256
  • Like: 22
  • เพศ: ชาย
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 10 - Calling to the night
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2013, 10:53:47 PM »
โปรเจ็คแรง

ออฟไลน์ bangbang04

  • กัน-โอตะ
  • *****
  • กระทู้: 1,245
  • Like: 54
  • เพศ: ชาย
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 10 - Calling to the night
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 22, 2013, 08:33:22 AM »
ดองโมไว้เยอะอะดินาโร เลยต้องรีบปั่นไฟแลบ
ย้าย Blog ใหม่แล้วจ้า
http://bang04.blogspot.com/

ออฟไลน์ San

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 1,714
  • Like: 56
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 10 - Calling to the night
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 22, 2013, 09:41:05 AM »
ดีมาก เอาไว้ดูเป็นเเนว ชอบเรื่องเเม่พิมพ์จัง เข้าใจเรื่องพลาโมขึ้นอีกเยอะเลย 555 :iconlol:

ออฟไลน์ Stargazer

  • Verified User
  • เริ่มหัดทาสี
  • *
  • กระทู้: 130
  • Like: 5
  • เพศ: ชาย
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 10 - Calling to the night
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 22, 2013, 11:41:39 AM »
อ่านแล้วสนุกมากครับ ได้ความรู้เยอะดี น้อง 78-2 ตัวนี้
โมมัน สมัยใหม่ ตรงดีเทล พวกดีเทลร่องตื้น หลอก ๆ เนี้ยหละครับ
ปวดหัวสุด ๆ วอชไม่ติด ถ้าไม่ ย้ำรอย เหนื่อยเลย  :iconcryjoy:

ออฟไลน์ keunser

  • ต่อดิบตัดเส้น
  • **
  • กระทู้: 88
  • Like: 10
  • เพศ: ชาย
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 10 - Calling to the night
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 22, 2013, 11:29:49 PM »
ได้อะไรเพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ ขอบคุณมากๆเลยครับ (รอดูต่อ)

ออฟไลน์ marasai

  • กัน-โอตะ
  • *****
  • กระทู้: 1,160
  • Like: 80
  • เพศ: ชาย
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 10 - Calling to the night
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2013, 12:57:06 AM »
ต่อ master grade ที่เกือบจะสมบูรณ์เกินเหตุ จนมองข้ามรายละเอียดเล็กๆน้อยๆไป ก็คงพลาด trick ดีๆในการตกแต่งแก้ไขชิ้นงานไปเหมือนกัน เก็บข้อมูลดีๆตุนไว้ก่อนจะได้ฤกษ์ Project ซื้อ Air Brush มาทำสีในไม่ช้านานนี้แหละ  :iconlike:
รอรีวิวตัว WIng gundam zero ที่จะวางฯปลายตุลาต่อเลยละกัน  :iconvsign:

ออฟไลน์ naroki

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,268
  • Like: 544
  • Time and space with magic
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 10:11:49 PM »
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=ZWB8P4jbsAA[/youtube]


เริ่มจากก่อนพ่น  กั้นเจ้าแกนที่ใช้เสียบแขนก่อน 
การพ่นสีต้องพึงสังวรก่อนว่า ทินเนอร์มันกัดพลาสติก  ถ้าพ่นสีไปแล้วพลาสติกจะกรอบลงกว่าเดิม  ส่วนใหนที่ต้องการความแข็งแรงมากๆก็อย่าไปพ่นมันเลย หรือเลี่ยงไปใชสีของกันไซ่ / ไกอา โดนสมบูรณ์ดีกว่า เพราะกัดน้อยกว่า


พวกชิ้นส่วนที่คิดว่าเวลาประกอบหลังไปแล้ว อันตรายที่จะแตก  เพราะโมตัวนี้ออกแบบมาบอบบางมาก ส่วนใหนเป้นส่วนประกอบกัน ขบกัน หรือแน่นมากๆต้องระวัง


เช่นเดียวกับพวกร่องหรือรูเสียบตอนประกอบต่างๆ  เพราะถ้าเราทำสีไปแล้วสีมันจะหนาขึ้น
อันที่จริงใช้เทปแปะดีที่สุด แต่ผมขี้เกียจเอา UHU tag แปะเอาแล้วกัน ได้เหมือนกัน


พวกชิ่นที่เล็กมากๆ จนเอา UHU tag แปะไปกับไม้ไม่ได้ ก็เอากาวช้างทาเอาบางๆตรงปลายแกนแล้วแปะไปเลย  แปะไปตรงส่วนที่ไม่ต้องพ่นสี  หลังพ่นเสร็จก็แกะออกแล้วเอามีดตกแต่งส่วนที่เปื้อนกาวออก


สีแรก สีเทาเข้ม ใช้สีรองพื้น + ดำ พ่นไปก่อน


โมตัวนี้ ตรงชิ้นโครงในจะเป้นชิ้นเดียวกับเกราะ......
แน่นอน โครงในผมไม่กลับมากั้นพ่นแน่ๆล่ะ 


จากนั้นใช้รองพื้นพ่นไล่ สำหรับขาวเทา  เพราะดูไปสีมันเหมือนสีรองพื้นมาก


ต่อด้วยสีขาวเทาอ่อน


พ่นเทาไปก่อน ตามด้วยพ่นไล่ด้วย ขาว + เทานิดหน่อย + สีม่วงนิดๆให้ออกขาวเทาฟ้า


สำหรับสีขาวหลัก  พ่นสีเทาไปก่อน


ตามพ่นไล่ด้วยสีขาว Untimate white ของไกอา แบบเพียวๆไม่ต้องเติมอะไรทั้งสิ้น


จากนั้นพ่นเครียร์ทับแบบแยกชิ้นไปเลย  เพราะตัวนี้เวลาวอชผมคงวอชแบบรายชิ้นไม่ประกอบเป็นตัวล่ะ  เพราะเสียวโดนเอนาเมลกัดแตก  เพราะบางจุดบางมากแบบว่าถ้ารวมร่างวอชแล้วแตกแน่นอนแบบหายห่วง


เสร็จแล้วรอให้แห้งซักคืน แล้วค่อยเก้บเข้ากล่องกันฝุ่น
ทีขาว 3 เฉด จะออกมาเป็น
ขาว 1 = สีรองพื้น
ขาว 2 = ขาว + เทานิดๆ + ฟ้านิดๆ
ขาว 3 = ขาวธรรมดา


สำหรับโมตัวนี้  ชิ้นส่วนเกราะนอกเยอะมาก  เพราะแบ่งสีกันละเอียด  ทำให้ไม้เสียบชิ้นส่วนมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ เลยต้องพ่นสีขาวหลัก สองรอบ  โดยเฉพาะพวกตาตุ่มนี่แหล่ะ เยอะมาก ไม้เสียบมีไม่พอ 555
แต่ก็ดีอย่าง คือมีเวลาเก้บงานมากขึ้น  เพราะตะเข็บตรงหัวใหล่หลังพ่นสีรองพื้นไปแล้วพบว่าขัดเก็บไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าใหร่  เพราะกังวลว่าจะไปลบปุ่มที่บ่าออก  พี่แกแทบไม่มีอุดขัดก้จริง แต่ตะเข็บมาพาดตรงพวกดีเทลบางๆนี่มันก็ลำบากเหมือนกันนา.....
ขัดเก็บแล้วพ่นอีกรอบก็เป็นอันเสร็จสำหรับสีขาว ที่เป้นชิ้นส่วนที่เยอะที่สุด รองลงมาก็สีเทา

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=s9MQNSAXzQQ[/youtube]
-k

สร้างเพจละนะ
https://www.facebook.com/Narokiastray/

ออฟไลน์ marasai

  • กัน-โอตะ
  • *****
  • กระทู้: 1,160
  • Like: 80
  • เพศ: ชาย
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2013, 12:51:44 AM »
ส่วนช่วงตาชิ้นใสนี่... กะจะทำสีดำทึบไม่ให้แสงลอดหรือใช้ Sticker หน้ากาก Zolo ที่ให้มาดีกว่ากันครับ?
Sensor ที่ตาก็คงใช้ Clear เหลืองแน่หละ  :iconlike:
เตาไฟลุงก็คงไม่ได้ตังนาโรเช่นเคย.... ของผมกะไว้ว่าจะลองใช้จากชุด HY2M ที่ได้มาจากตอนลดราคาดู http://www.dalong.net/review/etc/hyh01/p/hyh01_03.jpg ตัวอย่างเปน Head set 1 ก็ยังตาออกเขียวๆซะงั้น แต่ใช้สีเหลืองของ Shiki ที่อยู่ใน Head set 3 (แต่ยังไม่ได้ลองจริงเลยนะครับ ที่ Switch เปิด/ปิด เปน Magnat ก้อนดำๆเล็กๆหนะ แต่ต้องดัดแปลงการใช้งานหน่อย)
ต่อประกอบเกราะสีน้ำเงินด้านซ้ายหลัง ผมไม่ได้สังเกตุว่ายังกดโครงในไม่เข้าที่ (โครงขยับช่วงอก/แขนซ้าย) กดเข้าไปเต็มแรงแตกสองซีกเลย ยังดีที่เปนด้านที่ไม่ค่อยเห็นเพราะยังไงก็ถือโล่ห์อยู่ละ เลยหยอดกาวเชื่อมฯไปละ แต่ไม่มีผลกะการขยับแต่เซ็งที่พลาด:iconpanic:
น่าชื่นชมจริงๆ มีเวลาเล่นเกมส์ภาพสวยๆหลายเกมส์เลย งานผมไม่ค่อยว่างให้พอเล่นเท่าไหร่  :iconvsign:

ออฟไลน์ eva-01

  • Verified User
  • ฝึกพ่นสีกระป๋อง
  • *
  • กระทู้: 426
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 03, 2013, 09:28:26 PM »
รวดเร็วเหมือนเดิม
ไม่รู้วันนึงนาโรมีเวลามากกว่า 24 ชั่วโมงหรือเปล่า แอบอิจฉา
ส่วนตัวเวลาหนึ่งวันนั้นหมดไปกับการทำงานหาเงินมาผลาญโม
ถึงห้องก็หมดแรงตาล้าหยิบจับโมมาทำแทบไม่ไหวเลยทีเดียว55
ขอรอชมตอนเสร็จละกัน

ออฟไลน์ naroki

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,268
  • Like: 544
  • Time and space with magic
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 03, 2013, 10:15:28 PM »
จริงๆ เอากันตามตรง ผมไม่ได้ขยันทำโมอะไรมากมากซักเท่าใหร่อ่ะครับ
เอาจริงๆ ผมพ่นสีวันละ ครึ่งชั่วโมง ถึง 1ชั่วโมงเองมั้ง  แถมไม่ได้ทำทุกวันด้วยแทบจะวันเว้นวัน
ส่วนต่อโมนี่ ผมได้ต่อจริงๆแค่วันเสาร์จริงๆ เพราะอุปกรณ์ครบต้องกลับบ้านวันศุกร์ - เสาร์ อย่างเดียว วันอาทิตย์บ่ายผมก็ต้องออกต่างจังหวัดละ เวลาเล่นเกมส์ผมก็แค่คืนวันศุกร์กับเสาร์ แค่นั้นแหล่ะ ส่วนมากอาศัยวันหยุดยาวเล่นกันนานๆ
เพราะว่ากันตามตรง ผมทำงานแบบกำหนดเวลาทำงานตลอดนะ แล้วหาวิธิเร่งความเร็วเอา
อย่างเวลาตัดชิ้นงานจากแผงนี่ ผมจะแยกตลอด ว่าตรงใหนแผงบอดี้ แผงปีก อันใหนต่อก่อนต่อหลัง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาควานหา
การต่อส่วนใหญ่ตัดจากแผง ผมแทบจะตัดโดยใช้อาร์ทไนฟ์กดเอาแทบทั้งสิ้น ใช้คีมตัดแค่ส่วนอันตรายจริงๆ เพราะผมถือว่าสุดท้ายยังไงก็ต้องขัดกันอยู่ดี ถ้าจะเฉือนกจ ผมจะวางกองๆแล้วเฉียนทีเดียว จะได้ไม่เสียเวลาหยิบจับเปลี่ยนอุปกรณืจากมีดไปเป็นคีม
การต่อ เหมือนที่เห้นตามรีวิวผมแหล่ะ ผมตัดชิ้นส่วนมากองรวมกัน แล้วต่อทีเดียว ทำแบบนี้จะไม่เสียเวลาเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ถืออยู่ครับ ไม่งั้นเดี๋ยวจับมีด เดี๋ยวจับคีม เดี๋ยวปล่อยอุปกรณ์ที่ถือ เสียเวลาครับ
เรียกว่าการต่อนี่ผมทำเวลาสุดๆ เพราะเวลามีน้อยครับ ต่อไม่เสร็จไม่ได้นอน เพราะแผงเต็มเตียงเลย ตั้งแต่ทำโมแนวปฏิรูปนี่ มีแค่กษัตริยาตัวเดียวที่ผมไม่สามารถต่อเสร็จภายใน 1 คืน ส่วนนึงก็เพราะต่อโมถี่ด้วย ความเร็วในการต่อ กับ เทคนิค มันจะวิ่งมาเรื่อยๆเอง
ส่วนเรื่องการทำโม ก็คราวๆเดียวกันล่ะครับ
อย่างถ้าอ่าน WIP ผมมา จะเห้นสว่าผมพยายามนำเสนออะไรแปลกๆ อย่าง เอาพุตตี้ใส่ขวดกาวแห้งไว ที่มีภู่กันติดที่หัวขวด เพราะสามารถตักพุตตี้มาทาได้ทุกเมื่อครับ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาบีบจากขวดมาป้ายแล้วล้างเครื่องมือ  หรือเปลี่ยนมาใช้ พนาเลไลน์วอชของทามิย่า เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาล้างเครื่องมือ หรือใช้แท่งกระดาษทราย เพราะจะทำให้การขัดง่ายขึ้น
หรืออย่างพวกเวลาล้างสี ผมใช้ล้างทินเนอร์ก่อน 1 ครั้ง ตามด้วยใช้สีเครียร์เทใส่ขวดเพื่อล้างสี เพราะสีเครียร์มันหนืดกว่าทินเนอร์ ทำให้ไล่สีที่ค้างในแอร์บรัชได้ง่ายกว่า และถึงสีตกค้างก็เป็นสีเครียร์ ไม่มีผลกระทบอะไร ทำให้ล้างสีได้งาย
หรือสีผมก็ใช้ไกอา ที่พ่นขึ้นง่ายกว่ากันเซ่ หรือตอนหลังก็เปลี่ยนสีขาวไปใช้อัลติเมทไวท์หมด เพราะสีมันพ่นขึ้นไวสุด แพงก็ยอมเอาไวใว้ก่อน
หรือสีผม ผมจะซื้อ สองขวดตลอด เอาขวดนึงเทสีลงไปอีกขวด แล้วเอาสีขวดที่เทออก เติมทินเนอร์ให้เหลวพอสำหรับพ่นแอร์บรัชตลอด เวลาพ่นผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาผสมทินเนอร์ลงกรวย  ถ้าสีเริ่มหนืดๆก็เอาสีในกรวยเทคืนขวดสีแล้วผสมทินเนอร์มันลงใจขวด ปิดฝา เขย่า เทลงกรวยกลับ ลองพ่น แทบจะเรียกว่าสามารถพ่นได้ทุกเวลาเพราะผมผสมทินเนอร์เตรียมพ่นใว้ตลอดแล้ว ซึ่งเวลาล้างก็อัดเครียร์พ่นสีทิ้งเอา หรืออย่างขวดเครียร์ผมใช้ขวดใหญ่ของไกอา ผสมทินเนอร์เสร็จ ผมไม่ต้องคนขวดเอาล่ะ ผมใช้เขย่าเอาทั้งฝาเลย
หรืออย่างปั๊มลมผมก็ใช้คอมเพรสเซอร์ครับ ชาวบ้านเขาใช้ลมแรงประมาณ 3 Mpa มั้ง ผมล่อไป 4-5 ล่ะครับ ลมยิ่งแรง สียิ่งออก พ่นสีขึ้นยิ่งง่าย แล้วผสมสีให้หนืดๆหน่อย สีมันจะเข้ม พ่นแล้วใช้เวลาไม่นานก็พ่นเต็ม แต่เสียว่าพ่นแล้วสีมันกองง่ายถ้าคอนโทรไม่ดีสีเยิ้มเอาง่ายๆ
หรืออย่างขัดกระดาษทราย ผมขัดแค่เบอร์ 600 ล่ะครับ ไม่ขัดไล่ไปเบอร์ 1200 ล่ะครับ ถ้าไม่กะทำสีแนวเงาสนิทจริงๆ
ซึ่งการทำงานของชาวบ้านคนอื่นเขาคงพยายามหาวิธีทำให้สวยขึ้นเรื่อยๆ แต่เส้นทางที่ผมเดินคือการทำงานยังไงให้ง่าย ให้ไว ครับ เพราะผมมองว่าโมเดลเลอร์ที่ดีต้องมีผลงานเยอะๆ ทำโมเป้นกิจวัตรครับ ไม่ใช่ทำโมปีละหน สองหน เพื่อส่งงานประกวด เคยอยากทำโมดิฟายเยอะๆเหมือนกันแบบตอนสมัยส่งงานล่ารางวัล แต่ด้วยเวลาที่เหลือกับแรงที่น้อยลงเรื่อยๆ ผมเลยมาทางนี้ล่ะครับ นี่ก็ทำสีแบบขยันน้อยลงเรื่อยๆแล้วครับ เทียบกับสมัยก่อนนี่ผมหย่อนยานเต็มที่แล้ว อาศัยว่าเปลี่ยนเป้นสีไกอา มันทำงานง่ายขึ้นจริงๆครับ พ่นแปปๆก็เต็มแล้ว ทำงานสบายขึ้นผิดกับสมัยก่อนจริงๆครับ (แต่ก็ทำให้พ่นไฮไลท์ยากขึ้นด้วย)
และในอยาคตก็จะยังพยายามหาวิธี หรืออุปกรณ์มาช่วยให้ทำงานไวขึ้นเรื่อยๆเหมือนเดิม เพราะทุกวันนี้เวลานอนน้อยมาก (วันที่ต่อรีวิว PG SF Freedom กับ กษัตริยานี่ แทบไม่ได้นอน......)

สร้างเพจละนะ
https://www.facebook.com/Narokiastray/

ออฟไลน์ VmaxRED

  • เริ่มหัดทาสี
  • ***
  • กระทู้: 127
  • Like: 29
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 04, 2013, 01:11:06 AM »
อยากทำได้เหมือนคุณnaroจริงๆเพราะทุกวันนี้ผมก็ทำงาน6วันแทบไม่เหลือเวลาต่อเลยถึงขนาดใช้แต่สีกระป๋องtamiyaอย่างเดียวเพื่อความเร็วไม่สนไฮไลท์ไรแล้ว ใจรักแต่ไม่มีเวลา ไปจ้างทำสีทีกลับรู้สึกแย่กว่าต่อดิบเองอีก ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ

ออฟไลน์ San

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 1,714
  • Like: 56
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 04, 2013, 04:59:36 PM »
เกราะมันยิบย่อยจิงๆนะละ เห็นเเล้วเหนื่อยเเทนเลย
ปล. พยายามทำโมให้ได้วันละ ชั่วโมง สองชั่วโมงเหมือนกัน สงสัยต้องพยายามให้มากกว่านี้เเระ T^T

ออฟไลน์ chetw

  • Verified User
  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 26
  • Like: 1
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 04, 2013, 05:13:47 PM »
โอ้วได้ความรู้เยอะ ขอบคุณคุณnarokiมากเลยเดี่ยวผมจะลองเอาไปปรับใช้ดูเผื่อจะทำโมได้เร็วขึ้น

ออฟไลน์ Zoneend

  • เริ่มหัดทาสี
  • ***
  • กระทู้: 131
  • Like: 4
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 04, 2013, 09:38:39 PM »
ผมก็เคยสงสัยนะ ว่าคุณนาโร เอาเวลาที่ไหนทำ จริงๆ ผมว่าคุณนาโร แบ่งเวลาเป็นนะ พอมาย้อนดูตัวเอง Exia สองอาทิตย์ยังได้แค่ครึ่งตัว 555  :iconcryjoy:

ออฟไลน์ ClaZ

  • เริ่มหัดทาสี
  • ***
  • กระทู้: 126
  • Like: 2
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กันยายน 04, 2013, 10:06:28 PM »
เป็นกำลังใจให้ คุณ Naroki ครับ  :iconwish:
ขอให้ทำโม และ รีวิว ดีๆ ต่อไปครับ อย่าพึ่งเหนื่อย  :iconvsign:
ยังมีอีกหลายๆ คนติดตามคุณ Naroki อยู่ครับ

ผมเองก็เป็นคนทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ (ต่อดิบ MG 1 ตัว ประมาณ 1 เดือน :iconcry:)

ออฟไลน์ tinchx

  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 45
  • Like: 16
  • เพศ: ชาย
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กันยายน 04, 2013, 10:13:55 PM »
อ่านของคุณ naroki แล้วเทียบกับตัวเองดู...
ตอนนี้ผมยังได้แค่ความเร็วในการต่อดิบเอง ซัก 4 ชม. ก็ได้แล้วตัวนึง
เรื่องทำสี เมื่อก่อนใช้สีสเปรย์ ก็ว่าทำความเร็วได้มากแล้ว 
พอซื้อแอร์บรัชมาใช้ แล้วรู้สึกทำเวลาไม่ได้ดั่งใจเลย ใช้เวลามากกว่าเดิมเกือบสามเท่า
แต่พอจะกลับไปสายสีสเปรย์อีก ก็เสียดายอุปกรณ์ที่ซื้อมาไว้แล้ว
ตอนนี้เลยต่อดิบดองไว้ก่อน....

ที่เห็นจะไม่ไหวจริงๆคือติดดีคอล มันเป็นงานละเอียดและใช้ความพยายามมากๆๆๆๆ กว่าจะติดได้เสร็จ
เจอ ver KA ทีแทบจะหงายหลังตึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 04, 2013, 10:15:44 PM โดย tinchx »

ออฟไลน์ a

  • Verified User
  • ลองพ่นแอร์บรัช
  • *
  • กระทู้: 518
  • Like: 57
  • เพศ: ชาย
Re: [Naro Project -ReBoot] RX-78-2 Version 3.0 : Mission 11 - Encounter
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กันยายน 04, 2013, 11:38:24 PM »
ไอดอลผมเลย ท่าน naroki บริหารเวลาเก่ง
ผมเอาโมไปต่อที่ทำงานช่วงพักเที่ยงทุกวัน วันละนิดละหน่อย กลับมาตอนเย็นก็ทำอีกตัวทำไปพร้อมกันตัวไหนเสร็จก่อนก็ทำสีก่อน ทำสีพร้อมกันสองตัวก็มี
อยากทำโมทุกวันถ้าทำได้ :iconvsign: