สวัสดีครับพี่น้องน้องชาว TG กระผมนายจินเจ้าเก่าครับ
กระทู้ที่ผ่านมา
[TG Corner] กระทู้แจกหนังสือ Hobby Japan, Dengeki Hobby, Model Graphix, etc. ทั้งใหม่เก่าหลายสิบเล่ม อัพเดทเรื่อยๆ!!!! >>>CLICK<<<
[อนิเม & เกมส์] [แกะซองลองอ่าน] Gundam Weapons Mobile Suit Gundam 00V Special Edition >>>CLICK<<<
[Technics & Tools] รวมเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับงานโมเดลแทบทุกสาย สแกนจากหนังสือภาษาไทย รูปใหญ่ อ่านง่าย ชัดเจน!!! by JinBikeR >>>CLICK<<<
[Technics & Tools] Step by Step วิธีติดดีคอลน้ำแบบง่ายๆ by JinBikeR >>>CLICK<<<
[ทำสีมาอวด] HG 1/144 Kshatriya (งานพู่กัน) >>>CLICK<<<
[ทำสีมาอวด] 1/12 Tamiya Kawasaki Ninja ZX-14 SP Color Edition (งานพู่กัน) >>>CLICK<<<
[ทำสีมาอวด] 1/12 Tamiya Suzuki GSX1300R Hayabusa (งานพู่กัน) >>>CLICK<<<
[ทำสีมาอวด] 1/12 Tamiya Yamaha YZR-M1'09 Monster Tech3 (งานพู่กัน) >>>CLICK<<<
[แกะกล่อง ลองต่อ] 1/72 Kotobukiya Zoids Liger Zero Schneiders >>>CLICK<<<
[แกะกล่อง ลองต่อ] Kotobukiya Z.O.E. Jehuty >>>CLICK<<<
[แกะกล่อง ลองต่อ] Bandai MG Infinite Justice >>>CLICK<<<
[แกะกล่อง ลองต่อ] Bandai MG Strike Freedom >>>CLICK<<<
[แกะกล่อง ลองต่อ] Bandai RG RX-78-2 >>>CLICK<<<
[แกะกล่อง ลองต่อ] Bandai RG Aile Strike Gundam >>>CLICK<<<
กระทู้นี้ค่อนข้างยาวหน่อยนะครับ ใครไม่สนใจเชิญเลื่อนไปดูรูปด้านล่างได้เลยครับรู้สึกดีใจมากครับที่ได้มาตั้งกระทู้ห้องนี้อีกครั้งนึง งานนี้ก็เป็นงานดองที่ดองมายาวนานตั้งแต่ต้นปีเลย
เพิ่งมาเริ่มทำจริงจังได้ซักประมาณเดือนสองเดือนนี้เอง งานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งงานพู่กันที่รู้สึกภูมิใจกับมันมาก
เพราะงานออกมาส่วนใหญ่แล้วพอใจมากทีเดียว สำหรับโมเดลกล่องนี้มีอยู่จุดเดียวเท่านั้นที่นรก
แถมเป็นจุดที่สำคัญที่สุดซะด้วย นั่นก็คือ "ดีคอล" ที่ว่านรกนี่ไม่ใช่เยอะนรก หรือเล็กนรก แต่ "คุณภาพ"
ต่างหากที่นรกมาก เพราะเหมือนดีคอลมันค่อนข้างเก่า แผ่นหนา ติดไม่ค่อยอยู่ และที่เซ็งที่สุดคือ
มัน "กรอบ" ใช่แล้วครับ มันเข้ามุมหรือติดบนผิวโค้งแทบไม่ได้เลย เพราะมันกรอบ จับงอหน่อยหัก T_T
ใช้ Mr. Mark Setter ก็ไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่ ยังไงก็หักอยู่ดี ตอนแรกพองานทุกอย่างเสร็จแล้ว
เหลือติดดีคอล เราก็อุตส่าห์ดีใจว่างานใกล้เสร็จแล้ว พอมาเจอดีคอลแบบนี้ แทบอยากจะเขวี้ยงทิ้งทั้งกล่องเลย
ส่วนตัว ผมว่าตัวเองก็เชี่ยวชาญเรื่องดีคอลน้ำพอสมควรนะ แต่มาเจอแบบนี้ถึงกับน้ำตาไหลพรากๆเลยทีเดียว
แต่สุดท้ายก็กัดฟันทำเสร็จจนได้ จุดไหนที่เสียแก้ไม่ได้ก็ช่างมัน เก็บมาใส่ใจพานปวดหัวเปล่าๆ -*-
เลยคิดซะว่า "เอาน่า อย่างน้อยมันก็คล้ายๆรอยรถล้มฟะ" (แถชัดๆ
)
Repsol Honda NSR500 1998 ตัวจริง
มาที่ตัวรถบ้างนะครับ ตัวนี้คือตัวแข่ง Moto GP สมัย 1998 นั่นก็คือ Repsol Honda NSR500 ปี 1998 นั่นเอง
หลายคนเห็นรูปข้างบนแล้วอาจจะคิดว่า "เอ๊ะ คุ้นๆเหมือนมีวิ่งในบ้านเราเลย" ใช่ครับ แต่ไม่ใช่คันนี้นะครับ ที่เห็นในบ้านเรา
นั่นคือ Honda NSR150 Pro Arm ลาย Repsol (Pro Arm คือสวิงอาร์มเดี่ยว) ซึ่งตอนที่ออกรุ่นนี้นั้นเป็นช่วงที่
มหาเทพดูฮาน ใช้ Repsol NSR500 คว้าแชมป์ได้หลายๆสมัยติดต่อกัน ซึ่งผมเชื่อว่าชายไทยวัยกลัดมันที่หลงใหล
สองล้อ ครั้งหนึ่งเจ้า NSR150 ไม่ว่าจะโมเดลไหนก็ตาม ต้องเป็นรถในฝันของทุกคนแน่ๆ รวมถึงตัวผมเองด้วย
เพราะเจ้า NSR150 เนี่ย เป็นรถรุ่นแรกที่ผมชอบมาก เพราะตอนเด็กๆคุณพ่อผมก็ใช้ NSR150 (โมเดลไหนจำไม่ได้ละ)
มันก็เลยติดตาตรึงใจมาตลอดว่า NSR นี่มันเมพขิงๆ เท่ระเบิดจริงๆ และอีกเหตุผลที่ผมชอบ NSR มากๆก็คือ
สมัยที่เคยเรียน Riding School ที่สนาม ผมก็ใช้เจ้า NSR150 ลาย Repsol นี่แหละเป็นตัวฝึก เลยยิ่งประทับใจเข้าไปใหญ่
Honda NSR150 Pro Arm ลาย Repsol ที่ขายในบ้านเรา
กลับมาที่ตัว NSR500 อีกครั้ง ตัวนี้เครื่องยนต์ 500cc 4 สูบ 2 จังหวะ ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 130 กิโลกรัม
แต่กลับทำม้าได้สูงถึงประมาณ 200 แรงม้า ความเร็วสูงสุดมากกว่า 300 กม./ชม. โดย NSR500 ของทีม
Repsol Honda นั้นมีอยู่สามคันคือ เบอร์ 1 ขับโดย Michael Mick Doohan (มหาเทพดูฮาน)
เบอร์ 4 ขับโดย Alex Criville และเบอร์ 2 ขับโดย Tadayuki Okada โดยเอสของทีมอยู่ที่เบอร์ 1
มหาเทพดูฮาน ชายผู้ซึ่งถูกจารึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็นแชมป์ 5 ปีซ้อนคนแรก (1994-1998)
โดยเฉพาะในปี 1997 เป็นปีของ Honda โดยแท้ เพราะทั้งหมด 15 สนาม Repsol Honda ได้แชมป์
หมดทุกสนามเลย โดยดูฮานได้แชมป์ไปถึง "12 สนาม" Alex Criville 2 สนาม และ Tadayuki Okada 1 สนาม
ซึ่งปีนั้นดูฮานได้แชมป์ตั้งแต่แข่งครบ 10 สนามแล้ว แต่พอมาปี 1999 ดูฮานก็เกิดอุบัติเหตุในสนามซ้อมที่สเปน
ส่งผลให้ต้องเลิกแข่งไปอย่างถาวร เหลือไว้เพียงตำนานอันยิ่งใหญ่ของแชมป์ 5 ปีซ้อนคนแรก และในปี 1999 นั้นเอง
รองแชมป์โลกมีชื่อว่า "Valentino Rossi" ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมากที่ดูฮานกับรอสซี่ไม่ได้ขับเคี่ยวกัน
ซึ่งขอบอกว่าถ้าดูฮานไม่เกิดอุบัติเหตุไปซะก่อน รอสซี่ไม่ได้เกิดง่ายๆแน่นอน
Michael Mick Doohan
Doohan กับ Repsol NSR500
Doohan กับเพื่อนร่วมทีม Alex Criville
นอกจากนี้ดูฮานยังเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ NSR150 และได้ลงปกนิตยสารสองล้อในบ้านเราด้วย
โดยสมัยนั้น ใครขับ NSR150 ตัวนี้ รับรองว่าเท่ระเบิด แว๊นสมัยนี้ไม่ได้กินแน่นอน ฮ่าๆ
ขอจบเรื่องราวของตำนาน NSR ไว้เพียงเท่านี้นะครับ ต่อไปมาดูในส่วนของ Review แกะกล่องกันบ้าง
เผื่อท่านใดสนใจสเกลไบค์จะได้ดูเป็นแนวทางได้นะครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าโมเดลคันนี้ทาง Tamiya
เลิกผลิตไปแล้วนะครับ ปัจจุบันอาจจะหายากซักนิดนึง ผมได้มาจากสยามทามิยะครับ อีเมลไปถาม
พอมีก็สั่งซื้อเลย แต่ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปเดินซื้อสีที่แผนกของเล่นเซ็นทรัลพระราม 2 มา
เห็นมีอยู่กล่องนึงนะครับ ใครสนใจก็ลองไปดูได้ ส่วนรีวิวนี้ผมถ่ายตั้งแต่ต้นปีแล้ว อาจจะมีข้อผิดพลาดบ้าง
คือตอนนั้นยังไม่รู้ว่าควรถ่ายเหรียญเป็นอีกด้านนึง ก็ขออภัยไว้ ณ ตรงนี้ด้วยนะครับ
เริ่มจากหน้ากล่อง
ที่วงไว้คือชิ้นที่จำเป็นต้องเชื่อมและอุดขัดนะครับ ก็มีบังโคลนหน้า ถังน้ำมันและแฟริ่งท้ายครับ
แผงนี้มีที่ต้องเชื่อมอุดขัดคือปลายท่อข้างรถ ดันให้ติดกันมาเป็นคู่เลย ทำงานลำบากจริงๆ
มีชิ้นส่วนที่ชุบมาให้ด้วยคือตัวเฟรมกับสวิงอาร์มและชิ้นอื่นๆนิดหน่อย ส่วนตัวผมว่า Tamiya เค้าชุบสวยนะ
แฟริ่งหน้ากับหน้าอก ให้มาเป็นชิ้นเลย ดีจัง
ชิ้นใสเพียงหนึ่งเดียวคือบังลมหน้า (ภาษาสองล้อเค้าเรียกชีลด์หน้า)
ดีคอลน้ำสองแผ่นกับดีคอลติดขอบยาง สีสันสวยงามมาก แต่ผมคงซวยเองที่ดันมาเจอกล่องที่ดีคอลคุณภาพนรกมาก
คู่มือชวนปวดหัวเหมือนเดิม
อุปกรณ์อื่นๆที่ให้มาก็มียางสองเส้น เป็นยางจริงๆแต่ตะเข็บนี่ผ่ากลางมาเลย ต้องมานั่งขัดเอาตะเข็บออก
นอกนั้นก็มีไขควง 1 อัน น๊อต 1 ห่อ สปริงโช๊คหลัง 1 ตัว และท่อยาง 2 ขด คราวนี้มีสองขนาดเลย
มาถึงตัวโมเดลกันบ้าง ก็อย่างที่เห็นนะครับ เป็นของค่ายสองดาว Tamiya เหมือนเดิม เนื้องานไม่ต้องพูดถึง
ดีเยี่ยมสมราคา (กล่องนี้ได้มาไม่ถึงพัน เพราะเป็นโมเดลปีเก่า) ไม่มีสแนปฟิตมาให้ ต้องใช้กาวประกอบทั้งคัน
ทำสีไปประกอบไปทีละส่วน ใช้กระดาษทรายขัดไล่เบอร์ 400 - 800 - 1500 ที่ใช้กระดาษทรายขัดก่อน
นอกจากทำให้ผิวงานเรียบเสมอกันแล้ว ยังเป็นการลบความมันของผิวทำให้ผิวสากเพื่อให้เนื้อสีเกาะได้ดีขึ้น
หากไม่ขัดแล้วทาเลย มันก็ทาได้ครับแต่สีจะเกาะยาก ตามมุมตามขอบสีจะหาย คันนี้ใช้สีทั้งหมด 4 ตัว
คือสีสูตรแลคเกอร์ของ Gunze สีสูตรแลคเกอร์ของ Gaia สีสูตร Enamel ของ Tamiya และสีสูตร Acrylic
ของ Tamiya การลงสีทั้งคันใช้พู่กันทั้งหมด ชิ้นแฟริ่งผสมสียากมาก ลองผสมเป็นสิบๆรอบเลยกว่าจะออกมาพอใจ
เพราะตามคู่มือให้ใช้ Metallic Blue แต่ผมดูแล้วมันไม่ใช่อ่ะ สีจริงมันจะออกเขียวๆน้ำเงินๆ คือเวลาแสงส่อง
จะเห็นเป็นเขียว เวลาปกติจะเห็นเป็นน้ำเงิน กว่าจะผสมออกมาได้ใช้เวลานานมาก ชิ้นแฟริ่งพ่นเคลียร์มัน (พ่นหนาๆ)
จากนั้นขัดเงาด้วย Compound ของ Tamiya ขัดไล่ตั้งแต่ Coarse - Fine - Finish งานนี้ทำให้รู้ว่า
สี Enamel มันถลอกง่ายมาก ไปจับบ่อยๆหน่อย สีลอกกระจาย บางจุดสีลอกก็ไม่ได้แก้ เพราะจำไม่ได้ว่าผสมยังไง (ซะงั้น)
นี่แหละไม่ยอมเขียนสูตรสีเอาไว้ -*- คราวหน้าต้องเขียนสูตรสีไว้ด้วย เผื่อต้องซ่อมสีจะได้ผสมถูก
สีที่ใช้ เอาที่จำได้นะครับ เพราะใช้หลายสีมาก ไม่ได้จดไว้เลย แต่จำได้หมดว่าใช้สีอะไรบ้าง (# = Gunze, X = Enamel, XF = Acrylic)
สีแฟริ่ง - #76 Metallic Blue + #77 Metallic Green + #28 Steel อัตราส่วน 7+2+1 ตามลำดับ
สีล้อ - #173 Fluorescent Orange + #59 Orange
จานเบรค - วงนอกกับวงใน X-10 Gunmetal, วงเล็กๆ XF-56 Metallic Grey แต้มหมุดด้วย X-11 Chrome Silver
สีโช๊คหน้า - หัวโช๊ค #78 Metallic Black, แกนโช๊ค Gaia Star Bright Silver, กระบอกโช๊ค Gaia Star Bright Gold
สีโซ่ - Gaia Star Bright Gold แต้มหมุดด้วย X-10 Gun Metal, สีสเตอร์(จานโซ่) XF-56 Metallic Grey
สีเงินท่อไอเสีย - X-32 Titanium Silver
สีอื่นๆทั้งหมดที่ใช้ - #51 Flesh, #41 Red Brown, #10 Copper, #33 Flat Black, #92 Semi Gloss Black
XF-16 Flat Aluminum, X-2 White, X-11 Chrome Silver, X-31 Titanium Gold, X-12 Gold Leaf
มาถึงผลงานกันบ้างนะครับ เอาแบบชัดๆหลายๆมุมไปเลยแล้วกัน สงสัยตรงไหนถามได้นะครับ
ถ่ายกับผองเพื่อน แก๊งค์ 4 ยอดกุมาร
จบแล้วครับกับงานพู่กันสองครั้งต่อปี
งานหน้ากะว่าจะกลับเข้าไลน์เดิมอยู่เหมือนกัน (กันดั้ม) ไม่แน่ครั้งหน้าอาจจะหนีไปลองแอร์บรัชดู เพราะมีโครงการจะซื้ออยู่
วันนี้ลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้านะครับ บ๊ายบาย
