ผู้เขียน หัวข้อ: [Armored Core BNW] ดวงตาที่ย้อมไปด้วยความมืดมิด URANUS "MAVOR" Reboot ver.  (อ่าน 6487 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ naroki

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,268
  • Like: 544
  • Time and space with magic


"พวกเราคือทหารรับจ้าง ที่ทำงานตามคำร้องขอ แต่ท้ายที่สุดแล้ว  ไม่ว่าโลกนี้จะตกอยู่ในมือของใคร พวกเราไม่เคยเป็นของใครทั้งสิ้น"






Main Core Type Uranus
"MAVOR" Version.



Armorede core Brave new world
เป็นนิยาย  เนื้อหา + ข้อมูล มีค่อนข้างน้อย  ขนาด Wiki ญี่ปุ่นยังหาข้อมูลยากเลย
เนื้อหาคือ เป็นทหารรับจ้าง ชื่อ XIII ที่เก็บ Raven มาดูแล  และตอนหลังจึงแท็คทีมกับ Sesia ลูกสาวแท้ๆของของ XIII ตั้งเป็นทีม Double Hearth ขึ้น


AC Wictoria


Sesia  ที่ทำหน้าที่ Operator


AC Mavor


Mavor / XIII
 XIII เป็นทหารรับจ้าง ที่พบเด็กกำพล้า จึงเก็บมาเลี้ยงและทำการสอนการบังคับ AC จนกระทั่้งโตขึ้น  จึงมาเป็น Raven เหมือนกับ XIII
ตัว Mavor เป็น AC รุ่นน้ำหนักเบา  แต่ติดอาวุธแบบหนัก  ซึ่งถ้าตามปรกติจะต้อง Over weight ไปแล้ว  แต่ด้วยความสามารถ Human plus / OP Infinite จึงสามารถทำงานได้ตามปรกติ
โดย Mavor เป็นแขกรับเชิญในภาค 3 ของ PSP  แต่ไม่มีความสามารถ Human Plus อาวุธจึงเหลือแค่ ปืนไรเฟิล กับ บีมเบลด  ซึ่งรูปแบบการต่อสู้คือใช้ความเร็วเข้ากดดัน แล้วปิดเกมส์ด้วย Moonlight


Human Plus / Op Infinite
เป็นระบบลับ ที่มีมาแต่ Armored Core 1 คือ เป็นระบบที่เชื่อมต่อระบบประสาท กับ ตัวหุ่นเข้าด้วยกัน แล้วบังคับหุ่นตรงๆ ทำให้สามารถดึงประทิทธิภาพของหุ่นมาได้เกินขีดจำกัด  เช่น รับสภาวะ Over Weight ได้, สามารถกระโดดยิงอาวุธหนัก เช่น Cannon ได้ สามารถปล่อย Beam Blade ได้
แต่ระบบ Human Plus นี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ เป็นการกดดันนักบินอย่างหนัก  ทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่ง และควบคุมตัวเองไม่ได้  ทำให้ระบบนี้เป็นความลับ  และจะมอบให้กับนักบินที่มีความสามารถสูง และถูกเลือกเท่านั้น เช่น  เหล่าบอสๆ ในภาค Last Raven หรือคนที่มีความสามารถ ระดับ Dominant  ซึ่งระบบนี้ภายหลังได้กลายเป็นระบบ Link ของ Armored Core Next ที่ใช้การเชื่อมระบบประสาทเช่นกัน เนื่องจากความเร็วของหุ่นที่บังคับธรรมดาไม่ได้ ซึ่งในของ NEXT จะถูกระบุด้วย AMS Amplitude ของนักบิน  นักบินที่มีค่านี้น้อย จะไม่สามารถขับ Next ได้ เพราะจะเกิดการต่อต้าน และคุ้มคลั่ง เช่นเดียวกับ Human Plus แต่คนที่มีค่านี้สูงๆ จะขับ Next ได้โดยไม่เกิดผลเสียอะไรเลย  ซึ่งอาจสรุปได้ว่า คนที่ใช้ human plus ปัจจุบัน ก็จะมีค่า AMS Amplitude สูงเช่นกัน





Moonlight
เป็นดาบในตำนานของค่าย From software โดยในเกมส์ที่มีอาวุธประเภทดาบ  จะมีดาบสุดยอดที่ชื่อ moonlight ทั้งหมด  เช่น King Field หรือ Demon Soul
อันที่จริง มันก็ไม่ใช่ดาบสุดยอดอะไรนัก  แต่มักมาพร้อมความโกง  เช่น ฟันทะลุเกราะ  โดยใน Armored Core จะเป็นบีมเบลดที่แรงที่สุดในเกมส์  และหาซื้อไม่ได้ เพราะจะซ่อนอยู่ในเกมส์ และกว่าจะได้มาก็เลือดตาแทบกระเด็น
โดย ใน Demon Soul จะอันเดียวกับ King field เป๊ะ เลย
โดยใน Armored Core 4 และ FA ความสามารถถูกปรับลง โดยคงความแรงใว้ แต่กิน EN บัดซบมาก ถึงมากที่สุด  เพราะภาคนี้เน้น Online จึงต้องปรับเอาใว้เพื่อความสมดุลของเกมส์ แต่ถึงกระนั้น  ความแรงของมันก็คุ้มค่าที่จะติด



Karasawa Laser Rifle
ถ้าบีมเบลดที่ดีคือ moonlight ปืนที่ดีต้อง Karasawa Series ที่มีความแรงสูงมาก  แต่น้ำหนักก็มากเช่นกัน ซึ่งถ้าอาวุธทั้งสองรวมกัน  ความหายนะจะบังเกิด.....
เพราะทั้ง Moonlight และ Karasawa ทั้งหนัก ทั้งกิน EN ทั้งคู่  ใช้พร้อมกัน แทบจะไม่เหลือ EN ใว้ใช้งานกันพอดี  แต่สำหรับคนที่ติด Human Plus จะกิน EN น้อยลง 50% เลยไม่มีผลอะไร
ส่วนในภาค 4 , FA ชื่อจะเปลี่ยนเป็น Canopus และอย่างว่า ประสิทธิภาพตกลง คือ ค่า ความเร็วกระสุนที่ต่ำมาก  แต่ความแรง และ กระสุนเยอะเช่นเดิม  จึงเหมาะจะเล่น Offline เพราะศัตรูไม่เร็วมาก  แต่ถ้าเล่น Online จะลำบาก  เพราะผู้เล่นนั้นเร็วกว่าคอมมาก ทำให้ยากต่อการยิงโดน


Brave New World
ภาครวม  เป็นภาคที่เกิดจากการร่วมมือของ FromSoftware, Kotobukiya และ Dengeki โดยเกริ่นๆว่าจะเป็นภาคเชื่อมระหว่าง Last Raven ไปภาค4
แต่บทสรุปแล้ว เป็นภาคคู่ขนานซะมากกว่า  เพราะการปรากฏตัวของ Type AALIYAH และ LAHIRE ในเรื่อง
เพราะก่อนจะมี Type AALIYAH ต้องผ่าน Prototype Next ซะก่อน และ Type Lahire เป็น NEXT ที่ออกทีหลัง AALIYAH ร่วม 10 ปี.... การจะมาอยู่ร่วมกัน  มันเป็นไปไม่ได้....
และถ้าเอาจริงๆ  โลกของ Armored Core 4 ก็ต่างกับ Armored core 3 แบบคนละเรื่องอยู่แล้ว และการปรากฏตัวของ Nineball Serraph.....  ซึ่งอันที่จริงในภาค 3 มันไม่มีนะ  แต่มีตัวอัพเกรดไปแล้วคือพัลวัลเซอร์  โดย Seraph จะโผล่มาแค่ภาค 1 กับ 2 เท่านั้น  และถ้ามี Nineball จะต้องมี Controller ด้วย ซึ่งตามหลักมันพังไปหมดแล้วในภาค Last Raven  แถมยังมีไนน์บอลสีดำอีก
และยังมี Michael F ซึ่งชื่อไปตรงกับนักบินของ Rozenthal ในภาค 4 ด้วย  ซึ่งถ้าเอาจริงๆ  พี่แกอยู่ไม่ถึงหรอก .....
รวมๆ  มันเป็นภาคยำซะมากกว่า  คือโลกคู่ขนาน  ดูยังไงก็ไม่เป็นทางเชื่อมระหว่าง ภาค 3 ไป 4 อย่างแน่นอน เนื้อเรื่องก็วนเวียนอยู่กับพวก AI มีชีวิตเหมือนภาค 3 น่ะแหล่ะ  เพราะต้องสู้กับพวก nineball, Liviathan อะไรพวกนั้น.....





มาโมเดลกันมั่ง


จริงๆ ตัวนี้เคยลงไปแล้วรอบนึง  แต่มาแก้บางจุด  


ส่วนหัว Glith ที่มีตา 5 ดวง


ขา


ด้านหลัง  เกรเนด สุดฮิต 2 กระบอก  สภาพ Over Weight แน่นอน  แต่ด้วยความสามารถ Human Plus / OP Infinite ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...


โดยรวม เป็นหุ่นน้ำหนักเบา ที่ติดอาวุธหนักแบบสุดๆ


ปืน Karasawa Laser Rifle


Beam Blade Moonlight


ตัวปืน ใหญ่มาก




ตา 5 ดวง จุดเด่นของ Mavor


ถึงจะหนัก  แต่ตัวโมยืนได้มั่นคงดีมาก


แอคชั่น




บีมเบลด Moonlight ที่มีจุดเด่นที่เป็นสีฟ้า


ถ้าเป็นภาค 4 จะเป็นสีม่วง............



Orbit Cannon อาวุธเสริมแบบ Build In


Cannon มั่ง


อาวุธมาตรฐาน แรง  แต่กระสุนน้อย และหนัก








แอคชั่น + ฐาน


มือ รับน้ำหนักได้เยอะ


แต่ตรงแขน บ่ายกได้น้อยอยู่




จุดเด่นของ Human Plus อีกอย่างคือ  กระโดดยิง Cannon ได้  ซึ่งธรรมดาทำไม่ได้เนื่องจากแรงสะท้อน ทำให้ต้องยิงตอนขาติดพื้นเท่านั้น








ในภาค 3 ของ PSP จะมาพร้อมอาวุธไรเฟิล ธรรมดา เพราะไม่มีความสามารถ human Plus


ซึ่งในกล่องก็แถมมาด้วย

งานโม :
เป็นงานเก่าน่ะแหล่ะ  แต่ไปแก้จุดต่างๆ  เช่น  ลบรอยถลอกแปลกๆที่เคยทำ  และของเก่าใช้สีเงา  และดรายบรัชมันทั้งสีเงาๆนั่นแหล่ะ  พวกรอยถลอกเลยดูแปลกๆ
ซึ่งจะให้ดี  จริงๆถ้าจะดรายบรัช  ควรทำบนผิวด้านมากกว่า
ส่วนที่แก้ก็  เช่น  ยืดเอวให้สูงขึ้น  หั่นคอให้สั่นลง  ทำคู่ขนาดไปกับ Dual Face


ของเก่า


ของเก่า ดรายบรัชบนพื้นเงา  เพราะผมชอบตอนที่สีดำเงามาก  และเป็นตัวทำ Weathering ตัวที่สอง  เลยไม่กล้า  เพราะถ้าบรัชบนผิวเงา  อย่างน้อยถ้าพลาดก้ลบได้ง่ายมาก
สุดท้ายยอมเอามาแก้  เพราะตัวอื่นๆใช้สีออกด้านหมด.........
ส่วนเรื่องงานแก้  ก็ลยพวกรอยถลอกแปลกๆ  ดรายบรัชเพิ่มบางจุด แต่ไม่มาก  เพราะอยากคงความสะอาดเอาใว้มากๆ เพราะของ Dual Face สีดำเหมือนกัน  แต่ดรายบรัชแหลกจนกลายเป็นสีเทาไปเลย....




โอมาเกะ


คู่กับ Dual Face ที่มีความสามารถ Human Plus เช่นกัน


เกรเนด เกรเนด และ เกรเนด....


เทียบกับ Wictoria จะเล็กกว่านิด เพราะ Mavor เป็นหุ่นรุ่น Light Weight


เทียบกับผองเพื่อน




กับ Armored Core Next


รวมหมู่อีกซักรอบ  



รวมๆ  จริงๆ Armored Core ยุคเก่านี่ทำง่ายกว่า Next นะ กั้นสีน้อยกว่า  ของ Next ลายละเอียดยิบย่อยมาก
เพราะคอนเซปมันต่างกัน

คลิปปิด

http://www.youtube.com/watch?v=esdxY39uq2U&feature=results_video&playnext=1&list=PL9B7F0617F1E9E704

http://www.youtube.com/watch?v=83BX_etQZp4
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 03, 2011, 10:36:56 PM โดย naroki »

สร้างเพจละนะ
https://www.facebook.com/Narokiastray/

ออฟไลน์ naioh2

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 1,121
  • Like: 80
Re: [Armored Core BNW] ดวงตาที่ย้อมไปด้วยความมืดมิด URANUS "MAVOR" Reboot ver.
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 04, 2011, 12:49:35 AM »
งานละเอียด ข้อมูลแน่นเช่นเคยอ่านเพลินดีครับ
ตัวนี้ปืนใหญ่มากๆเลยครับเกือบเท่าตัวหุ่นเลย :iconlol:

ออฟไลน์ jason

  • ลองพ่นแอร์บรัช
  • *****
  • กระทู้: 746
  • Like: 30
  • เพศ: ชาย
  • คนดีๆที่ยืนอยู่ในมุมมืดๆ
Re: [Armored Core BNW] ดวงตาที่ย้อมไปด้วยความมืดมิด URANUS "MAVOR" Reboot ver.
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 04, 2011, 02:07:33 PM »
งานสวยข้อมูลแน่นเช่นเคย

......
ความเห็นส่วนตัว ผมว่าดำเงก็สวยไปอีกแบบ แต่ถ่ายรูปยาก

ซึ่งดำด้านถ่ายรูปได้ง่ายกว่ามาก และเหมาะกับการดรายบรัชมากที่สุด

สรุปคือทำออกมาสวยงามสุดยอดครับ
MONO EYE , MODIFY , DIE FOR ZEON

ออฟไลน์ TKvaniLLa

  • ฝึกพ่นสีกระป๋อง
  • ****
  • กระทู้: 427
  • Like: -79
  • ผมก็เป็นคนหนึ่งที่รักกันดั้ม
Re: [Armored Core BNW] ดวงตาที่ย้อมไปด้วยความมืดมิด URANUS "MAVOR" Reboot ver.
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 04, 2011, 03:40:05 PM »
ข้อมูลก็น่าสนใจ อ่านเพลินเลย

โมก็สวยมากๆ  :iconvsign:
My Gyndam Gallery