แค่เพียงคำพูด คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้.............Aspina - White Glint -
Armored Core 4 Ver. Armored cre "NEXT"ในช่วง National Dismantlement War มีการพัฒนา Kojima Particle ขึ้น ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สูงกว่าพลังงานแบบเก่า จึงมีการพัฒนาโดยใช้เตาพลังงาน Kojima แทน และ Armored Core ยุคใหม่ที่ใช้เตาพลังงานแบบใหม่นี้จะถูกเรียกว่า Armored Core NEXT
โดย Next นั้นเริ่มพัฒนาโดย ศาสดาจารย์ Jarnefeldt จาก Anatolia โดยต้นแบบคือ OO-Aretha และ 002-B แต่ในขั้นการทดลองเกิดปัญหาคือ เนื่องจากความเร็วที่สูงของ Armored Core เวลาที่ใช้ Quick Dash ที่มีความเร็วกว่า 3000 Km/h ทำให้ผู้ทดลองเสียชีวิตจากแรง G และความเครียด
ภายหลังโครงการจึงถูกยุติลง หลังจากการเสียชีวิตกระทันหันของ ศาสดาจารย์ Jarnefeldt และต่อมาถูกพัฒนาจนสมบูรณ์ ในนามของ 03-AALIYAH โดย Rayleonard
AMS (Allegorical Manipulation System) เป็นระบบการควบคุมของ Armored Core ที่พัฒนาโดย ศาสดาจารย์ Jarnefeldt และ Colony Aspina โดยเป็นระบบที่ควบคุมคนขับอีกที โดยระบบจะเป็นการเชื่อมต่อระบบประสาทของนักบินเข้ากับเครื่องโดยตรง และใช้เครื่องควบคุมความเสียหาย และระบบประสาทของนักบินอีกที จึงถูกเรียกว่า Link ซึ่งตอนหลังนักบินจึงถูกเรียกว่า LYNX
และนอกจากควบคุมสภาพของนักบินแล้ว ระบบนี้ยังช่วยรองรับแรง G ขณะใช้ความเร็วสูงด้วย แต่คนที่สามารถเข้ากับระบบนี้ได้มีอยู่น้อยมาก แต่ละคนมีอัตราการเชื่อมต่อไม่เท่ากัน คนที่มีค่า AMS สูงๆ จะสามารถควบคุม Next ได้เป็นเวลานานๆ โดยไม่เกิดผลเสียอะไรเลย แต่คนที่มีค่า AMS น้อยๆ จะเกิดแรงตีกลับ ทำให้เกิดความเครียดของระบบประสาทเมื่อใช้ระบบไปนานๆ แต่ก็มีนักบินหลายๆคนที่มีค่า AMS ต่ำ แต่เก่ง เช่น Barbaroi ของ Amazigh หมาป่าทะเลทราย ที่มีค่า AMS ต่ำ แต่ก็ยังทนสู้ต่อ และเนื่องจากค่า AMS ต่ำทำให้การรั่วใหลของอนุภาคสูง ทำให้ต้องสู้คนเดียว เพราะอนุภาคที่รั่วใหลมาเป็นพิษ Hari / Krasnayah ที่มีค่า AMS ต่ำแต่กลับฝืนสู้ และสุดท้ายก็ช็อคตายคาเครื่อง ซึ่งคนที่มี AMS สูงๆ มักจะไปขับหุ่นที่มีความเร็วสูงมากๆ เพราะไม่มีผลต่อร่างกาย แต่คนที่ AMS ต่ำๆมักไปขับหุ่นหนัก เช่น Sunshine เพราะความช้าทำให้สามารถขับได้เป็นเวลานานๆ เช่น Feedback ของ Roadie ที่มีค่า AMS ต่ำ จึงใช้หุ่นที่ช้า และประสบการณ์เข้าสู้ จนได้เป็น Top ของ GA America
White Glint / Joshua O'Brien
"สวัสดี Raven นี่ Next-White glint, ฉันมีข่าวดีมาบอก รีบๆทำงานให้เสร็จกันดีกว่า" - Joshua O'Brien[/i]
เป็น Lynx Rank 40 ที่เริ่มทำสงครามพร้อมๆกับRaven ซึ่งเขาเป็นนักบินทดสอบของ Aspina โดยที่ระบุว่าเป้นคนที่มีค่า AMS สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเป็นนักบินทดสอบของ Anatolia เก่า สมัยที่ ศาสดาจารย์ Jarnefeldt ยังอยู่
จึงสนิทกับ Fiona ลูกสาวของ ศาสดาจารย์ Jarnefeldt มาก ภายหลังจากที่โครงการยุติลง จึงกลับเมือง Aspina ของตน จากนั้นจึงกลับมาขับ Next ต่อเพื่อช่วยเมืองของตน เช่นเดียวกับเราที่สู้เพื่อช่วยเมือง Anatolia
Raven of Anatolia
"เพื่อปกป้องสิ่งสำคัญ ถึงกับยอมเสียสละซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง คุณกับโจชัวร์น่ะเหมือนกันมาก แต่คุณกลับเข้มแข็งยิ่งกว่า... " - Fiona Jarnefeldtพระเอกของภาค 4 ซึ่งเป็นคนขับ Armored Core เก่า แต่ได้ Fiona ลูกสาวของ ศาสดาจารย์ Jarnefeldt ช่วยชีวิตใว้ จึงตอบแทนบุญคุณโดยการมาเป็นนักบิน NEXT ให้ โดยเป็นทหารรับจ้างให้เมือง Anatolia เพื่อนำเงินค่่าจ้างมาช่วยระบบเศรษฐกิจที่ล่มสลายของเมือง หลังจากที่โปรเจค NEXT โดยหยุดลง
ภายหลัง หลังประกาศสงคราม Lynx War จึงได้เจอกับ Joshua และทั้งคู่ก็ช่วยกันปกป้องเมือง Anatolia จากการโจมตีของ Rayleonard แล้วสุดท้าย ทั้งคู่ก็สนิทกัน เพราะ Fiona และ Joshua ก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน
โดย Joshua นั้นเป็นทั้งคู่แข่ง และ เพื่อนของ Raven และสนิทกัน เพราะนิสัยของ Joshua ที่มีนิสัยเป็นมิตร และทั้งคู่เข้าร่วมสงครามพร้อมๆกัน ดังที่ Raven เป้น Rank 39 และ Joshua เป็น Rank 40 ทั้งคู่จึงช่วยกันทำสงคราม Lynx War สู้กับ Rayleonard
Lynx War
"โลกอย่างนี้น่ะ นายพอใจแล้วเหรอ?" - Berliozเนื่องจากผลกระทบของ kojima Particle ซึ่งเป็นสารมีพิษ การที่นำมันไปใช้ในสงครามทำให้มีการรั่วใหลเกิดขึ้น Rayleonard และ Akvavit ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทใหญ่ที่ค้นพบ และนำอณุภาคนี้มาใช้จึงเรียกร้องให้แต่ละฝ่ายเลิกทำสงคราม เพราะจะทำให้พิษของอณุภาค แพร่กระจายไปได้ไวขึ้น และเริ่มโครงการบุกเบิกอวกาศ เพื่อหนีปัญหาทรัพยากรณ์ที่น้อยลง แต่ไม่มีใครฟัง เพราะสงคราม 6 ฝ่ายนี้ไม่มีใครอยากเสียเปรียบ จากการสำรวจอวกาศ เมื่อพูดด้วยเหตุผลไม่ได้ ก็ต้องพูดด้วยกำลัง Rayleonard จึงคอยเวลาหาโอกาศ จน GA และ BFF เริ่มถดถอยลง จากการทำสงครามกันเอง จนเกือบล่มสลาย Rayleonard จึงประกาศ Lynx War ทำสงครามกับทุกฝ่ายที่เหลือ เพื่อรวมทุกกลุ่มเป็นหนึ่งเดียว เพื่อเปิดทางสู่อวกาศ แต่สุดท้าย Rayleonard กลับโดนถล่มโดย Raven จาก Anatolia และ Akvavit ที่โดยถล่มโดย Joshua โดย Lynx ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากสงครามนี้ โดยเฉพาะ Top Rank ของแต่ละฝ่าย ล้วนเสียชีวิตทั้งหมด รวมถึง Berlioz วีรบุรุษจากสงคราม National Dismantlement War และ Lynx ของ Rayleonard เสียชีวิตจนหมด เหลือ Sninkai คนเดียวที่รอดมาได้
Seed a Barren Earth
" จบลงตรงนี้รึ... ช่างเถอะ... แบบนี้ล่ะดีแล้ว.... มีชีวิตรอดไปให้ได้นะ... ทุกคน...." - Joshua O'Brien[/i]
หลังจบสงคราม Omer จึงเข้าฮุบ Rayleonard เก่าที่ล่มสลายไป จึงได้ทราบข้อมูลทุกอย่าง รวมถึงแผนการบุกเบิกอวกาศ และสภาพของโลกที่กำลังล่มสลายลง จึงตัดสินใจดำเนินการแผน "Closed Plan" ที่บุกเบิกทางสู่อวกาศ แต่อุปสรรคของเขาคือ Raven และ Joshua
Omer จึงวางแผนกำจัดทั้งสองทิ้ง (ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนจ้างทั้งคู่ไปถล่ม Rayleonard กับ Akvavit) โดยการล้อมเมือง Aspina และบังคับให้ Joshua ขับ Prototype Next 00-ARETHA ไปทำลายเมือง Anatolia ทำให้ Joshua ต้องยอมทำตาม ไม่อย่างนั้นเมือง Aspina จะถูกทำลายลง
โดย 00-ARETHA เป็น Prototype Next ที่จัดว่า แข็งแกร่งที่สุด ด้วยปีนกลขนาดยักษ์ และ เรเซอร์แคนน่อนขนาดใหญ่ และยังมีมิซซาย และ Assault Armour รอบตัว แต่เนื่องจาก Mega Quick Dash ที่เร็วมากขนาดที่ว่า ความร้อนของมัน ทำให้เกิดเป็นภาพติดตา เหมือนกันว่าหายไปในพริบตา ทำให้มีนักบินน้อยคนที่สามารถรับมือกับมันได้ มีเพียง Joshua ที่มีค่า AMS สูงที่สุด จึงสามารถบังคับมันได้
Joshua จึงขับ ARETHA ไปยังเมือง Anatolia แต่ไม่ได้มาซ้อมรบแบบในอดีต สมัย ศาสดาจารย์ Jarnefeldt ยังมีชีวิตอยู่ แต่ไปทำลายเมือง Anatolia บ้านหลังที่สองของเขา ซึ่งสุดท้าย Raven ที่เลิกขับ Next ไปแล้ว จึงต้องกลับมาขับ Next อีกครั้งเพื่อหยุด Joshua
สุดท้าย Joshua เสียชีวิตจากการระเบิดของ ARETHA ตามแผนของ Omer แต่ผิดที่ Raven สามารถชนะ ARETHA ได้ แต่สุดท้าย Joshua ก็เสียชีวิตจากการระเบิดของ ARETHA ตามแผนของ Omer อยู่ดี
เมื่อไม่มีทางเลือก CERO ที่ขับ Testament จึงต้องสู้กับ Raven เพื่อปิดปากทิ้ง แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตโดยมือของ Raven ไปอีกคน
หลังจบสงคราม ทั้ง Raven และ Fiona จึงออกจากเมือง Anatolia เหลือใว้เพียงตำนานของ Raven แห่ง Anatolia
For Answer
"เธอน่ะ สู้ไปเพื่ออะไรกัน? คิดสิ จงอย่างได้ผิดพลาดเหมือนกับพวกเราในอดีต..." Fionaหลังสงคราม National Dismantlement War ไปได้ 10 ปี OMER ได้ขึ้นมาเป็นบริษัทที่ใหญ่อันดับ 1 แทน และเริ่มแผนการอพยพคนจากพื้นดินที่ปกคลุมไปได้วยพิษจากสงคราม ไปยังเมืองลอยฟ้า Cradles ซึ่งเป็นการซ้ำเติมคนบนดิน จากสารพิษที่ปล่อยมาจากฟ้า Raven และ Fiona จึงเข้ากับกลุ่มต่อต้าน "Line Ark" เพื่อกดดัน OMER เดิม โดยใช้ชื่อ White Glint ต่อจาก Joshua ที่เสียชีวิตไป
เนื่องจาก Line Ark เป็นกลุ่มคน ไม่ใช่บริษัท จึงมีงบประมาณไม่มาก จึงมีการสร้าง NEXT ในสังกัดเพียงคนเดียว คือ "White Glint" ที่ใด้ Abe March ซึ่งเป็นคนสร้าง White Glint เดิมให้กับ Joshua มาออกแบบให้ จึงกลายเป็น White Glint ยุคที่สอง ที่เป็น Next เพียงเครื่องเดียวของ Line Ark และเป็น Lynx เพียงคนเดียวที่สู้กับ Lynx ที่เหลืออยู่ทั้งหมด
โดย NEXT White Glint ยุคที่สอง ก็ได้ออกแบบมา โดยเน้นการโจมตีด้วยความเร็ว เช่นเดียวกับไวท์กลินต์เก่า แต่เทียบกันแล้วมีความคล่องตัวกับพลังป้องกันที่มากกว่า แต่ไม่สามารถติดอาวุธติดบ่าได้ ทำให้เป้นจุดอ่อนอย่างมาก ถ้าเจอกับศัตรูที่ใช้มิซซาย เนื่องจากติดมิซซายแจมเมอร์ไม่ได้ แต่แลกมาด้วยความคล่องตัว เช่น แขนที่มีค่าการตอบสนองที่สูงที่สุด และขาที่มีค่าการเคลื่อนที่ที่สูง และเกราะที่หนาขึ้น
Aspina - X-SOBREROหลังจากการตายของโจชัวร์ ซึ่งถูกปิดข่าว เมือง Aspina ก็ยังทำงานกับ OMER เช่นเดิม โดยหลักแล้ววิจัยเกี่ยวกับระบบ AMS ให้มีความง่ายต่อการใช้ยิ่งขึ้น เนื่องจาก LYNX ที่มี AMS สูงๆ ล้วนเสียชีวิตหมดแล้วในช่วง Lynx War
จึงมีการพัฒนาหุ่นรบเพื่อศึกษาระบบ AMS ขึ้น นั่นก็คือ X-SOBRERO ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสู้ แต่เก็บข้อมูลในการรบ เพื่อพัฒนาระบบ AMS ต่อไป
ตัว X-SOBRERO เองจึงออกแบบมาเพื่อความรวดเร็วเพียงอย่างเดียว เช่น ขาและแขน ที่ลดจุดขยับลง เพื่อประหยัดพลังงาน ทำให้ความคล่องตัวต่ำมาก โดยเฉพาะแขนที่มีก็เหมือนไม่มี เพราะมีมุมหมุนของแขนที่จำกัด ทำให้เวลาเล็งต้องให้หันตัวเข้าหาศัตรูเอาเอง แทนที่จะใช้แขนล็อคศัตรู โดยที่แขนที่มีอัตราตอบสนองสูงๆ สามารถล็อคศัตรูได้ โดยที่ศัตรูอาจจะออกนอกกรอบไปแล้วด้วยซ้ำ และเกราะที่ต่ำมาก แต่ภาครวมเป็นหุ่นที่น้ำหนักเบาที่สุด แต่ก็พลังชีวิตน้อยที่สุดด้วยเช่นกัน แต่ได้ความเร็วมาแทน ซึ่งนับว่าเป็นหุ่นที่เร็วที่สุดแล้ว
โดยมักจะออกปฏิบัติการพร้อมกับหุ่นของ OMER ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Aspina ซึ่งความสัมพันธ์เป็นแบบพึ่งพากันและกัน โดย Aspina จะพัฒนาระบบ AMS ให้ ในขณะที่ OMER สร้างอาวุธไฮเทค ในขณะที่ Aspina เองก็ยังต้องใช้เงินสนับสนุนจาก Omer
ตัวโมกันมั่ง
ด้านข้าง
หัวของ Type - HOGIRE ที่เน้นการล็อคเป้าแบบบาลานซ์ และลำตัวของ SALAF ที่เน้นความเบา เพื่อเพิ่มความเร็ว
แขน และขา ของ Type JUDITH ที่เน้นการกินพลังงานที่ต่ำ ทำให้เอาพลังงานส่วนที่เหลือไปจ่ายให้กับบูสเตอร์ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวแทน
ด้านหลัง
โดยรวม จึงเป็นหุ่นที่มีทั้งความไว และคล่องตัว แต่เกราะบางมาก....
เวทเทอริ่งที่ขา
อาวุธ เน้น All Range ที่ระยะไกลใช้เรเซอร์แคนน่อน กลางใช้ไรเฟิล และใกล้ใช้บีมเบลด
ลายละเอียดของ O.B.
ตาเป็นชิ้นใส
แอสซอลไรเฟิล อาวุธหลัก
เบลด ที่แขน ซึ่ีงเป็นแบบพลังโจมตีต่ำ แต่วงดาบกว้างแทน
เรเซอร์แคนน่อน แรง แต่กระสุนน้อย เป็นรุ่นน้ำหนักเบา
แอคชั่นกันมั่ง
งานโมมั่ง
: เป็น Next ตัวล่าสุดที่ออก ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าออกแบบมาหลวม และ หลุดง่ายน้อยที่สุดแล้ว เรียกได้ว่าแน่นเกือบทุกจุด แต่ปัญหาคือการแยกสีที่เรียกได้ว่า ขาวทั้งตัว... โดยเฉพาะอาวุธ
เรื่องโม โอเคอยู่แล้ว เรื่องทำสี พอดีตอนแรกกะเวทเทอริ่งแรงๆเหมือนกัน แต่พอดีไปคุยกับพี่ที่เก่งเรื่อง Weaterring ท่านนึง พี่แกบอกว่าตัวนี้ สีตัดกันเยอะ น่าจะทำแบบบางๆมากกกว่า
ก็เลยออกมาแบบนี้ คือ ทำคราบแบบน้อยๆ แต่ท่าทางออกมาแล้วคงน้อยไปนิด ซึ่งส่วนตัวแล้วก็ไม่ถนัดงานแนว Weatering เท่าใหร่อยู่แล้ว เอาใว้งานหน้าจะพยายามให้โหดกว่านี้ แต่สันดานมันแก้ยาก คงต้องใช้เวลาซักพัก
ซึ่งอย่างที่หลายคนถามว่าเมื่อใหร่จะทำ White Glint ภาค FA ซะที ซึ่งก็ขอบอกว่า รอทำแนวนี้จนมั่นใจก่อน เพราะอย่างที่บอกว่ายังไม่เชียวชาญ หลายๆตัวทำพลาดได้ แต่ตัวนี้สำคัญมาก ถ้าทำเมื่อใหร่ จะขอทุ่มจิตวิญญาณ และพลังศรัทธาเต็มที่ ใช้ศรัทธาทำ ไม่ใช่ฟีมือ
สำหรับตัวโมแล้ว ส่วนลำตัวออกแบบใหม่ทั้งหมด ยกเว้นหัว ซึ่งทีนี้ สามารถทำเป็น Type-JUDITH ได้แล้ว ขาดแค่หัว ซึ่งอาจจะออก Testament ได้ เพราะขาดแค่หัวกับอาวุธ ส่วน Body SALAF เอาไปออก บัลบบารอย ของหมาป่าทะเลทราย อะมาซิงค์ได้ ซึ่งเป้นตัวสำคัญอีกตัว ดังที่กล่าวว่า ในภาค 4 มีการต่อสู้ที่คู่ควรแก่การจดจำ 3 ศึก 1 สู้กับ Amazigh 2. สู้กับ Berlioz และ 3. สู้กับ ARETHA
งานสี ใช้สีไกอาทั้งหมด
เมนคัลเลอร์ - ขาว + เทา + เหลืองส้มเล็กน้อย
เมนคัลเลอร์2 - ขาว + ฟ้าเล็กน้อย
ซัพพอร์ท - ขาว + ดำ + ม่วงเล็กน้อย
จอยย์ คัลเลอร์ - เขียว + ดำ
ออฟชั่นนอล คัลเลอร์ - น้ำตาล + ดำ + เงิน
ดีไวซ์คัลเลอร์ - เงินธรรมดา
เวป่อน เกรย์ - ดำ + ส้ม
ขาววอชด้วยสีเทา สีดำใช้สีเงิน + ดำ ปัดๆเบา
โอมาเกะ
เทียบไซส์กับผองเพื่อน
กับอื่นๆ
LYNX War
"ลาก่อน Raven, ดีใจจริงๆที่ได้นายมาเป็นพวก ที่ผ่านมาฉันก็ไม่อยากสู้กับนายนักหรอกนะ...
แล้วเจอกันใหม่ !!! แน่นอน ว่าในฐานะเพื่อน!!!!"
คลิปปิดท้าย
http://www.youtube.com/watch?v=v0Jq8k_VAAs&feature=relatedนามนั้นคือ Raven แห่ง Anatolia
http://www.youtube.com/watch?v=rwcghRFljZ8&feature=related