หัวข้อ: [กระทู้เก่าขุดมาเล่าใหม่] Bandai PG RX-78 GP01 Gundam GP01/Fb

[JinBikeR]

สวัสดีครับพี่น้องชาว TG กระผมนายจินครับ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------
กระทู้เก่าขุดมาเล่าใหม่ คือกระทู้รีวิวที่ผมทำไว้เมื่อประมาณปีสองปีที่แล้ว จากนั้นทางบอร์ด Thaigundam
ก็ได้ปรับปรุงบอร์ดครั้งใหญ่ทำให้กระทู้ในห้องรีวิวหายไปหมด แต่บังเอิญว่าผม Backup ไว้ทัน
ข้อความทุกข้อความผมคัดลอกมาจากของเก่าหมดไม่ได้แก้ไขอะไรเลย เปลี่ยนแค่เว็บฝากรุปเท่านั้น
ยกเว้นบางตัวที่มีอะไรเพิ่มเติม ก็จะใส่กรอบตัวหนังสือสีแดงแบบนี้ไว้ตอนท้าย รูปอาจจะกากหน่อยนะครับ
เพราะตอนนั้นกล้องก็ยังกากๆ ฝีมือถ่ายรูปก็ยังห่วยอยู่ ตอนแรกจะไม่ลงแล้ว เพราะเห็นรูปแล้วอายตัวเอง -*-
แต่ก็อุตส่าห์ Backup ไว้แล้ว อย่างน้อยคิดว่าพอเป็นแนวทางให้ผู้ที่กำลังหาข้อมูลได้บ้างล่ะน่า
----------------------------------------------------------------------------------------------------------

รีวิวโหดมาอีกแล้วครับพี่น้อง คราวนี้เล่นของใหญ่กันเลย ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยรีวิวมาแล้วเนี่ย ตัวนี้ใช้เวลาต่อนานหน่อย
เพราะไม่ค่อยจะมีเวลา แถมชิ้นส่วนมันก็เยอะมากด้วย ตามข้อมูลข้างกล่องก็ 1203 ชิ้นครับ เยอะกว่า MG ที่ชิ้นส่วนเยอะที่สุด
อย่าง FAZZ Sentinel อยู่เยอะเลย (FAZZ Sentinel 703 ชิ้น) แต่ถึงยังไงก็เข็นกันออกมาจนได้ รูปนี่ผมพยายามคัดให้น้อยที่สุด
แล้วนะครับ แต่ยังไงมันก็ยังเยอะอยู่ดี เพราะใจอยากให้เพื่อนๆได้เห็นกันอย่างชัดๆทุกซอกทุกมุม (ถึงจะไม่ทุกซอกทุกมุมจริงๆก็เถอะ)
สำหรับท่านที่เนทเร็วๆอยู่แล้วคงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ท่านไหนที่เนทช้า ผมต้องขออภัยด้วยนะครับ

สำหรับตัวนี้ เป็นกันดั้มพระเอกจากภาค 0083 Stardust Memory RX-78 GP01 นั่นเอง เป็นหุ่นอเนกประสงค์ที่มีสองร่าง (ร่างที่ใช้บนโลกกับร่าง FB ที่ใช้ในอวกาศ)
โดยโมบิลสูทตัวนี้เป็นหนึ่งในซีรีย์ GP ของฝ่ายสหพันธ์ ซึ่งมีทั้งหมดสามตัวคือ GP01, GP02, และ GP03 แต่ GP02 กลับมีอันต้องโดนยอดนักบินของฝ่ายซีออน
ฉายาฝันร้ายแห่งโซโลมอนอย่าง การ์โต้ อานาเวล ตัวร้ายของภาคนี้ขโมยไป (ขโมยกันอีกแล้ว -*-) นักบินของสหพันธ์ โค อุรากิ จึงขึ้นบังคับ GP01 เพื่อตามไล่ล่า
เอา GP02 ที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ไปด้วยกลับคืนมา เรื่องราวอันเข้มข้นจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยเหตุฉะนี้นี่เอง............

มาถึงตัวโมกันบ้าง ตัวนี้เป็น Perfect Grade ที่ Perfect สมชื่อจริงๆ ตัวใหญ่ สวยสุดๆ เท่สุดๆ แข็งแรงสุดๆ โพสต์ท่าสนุกสุดๆ
ไม่ว่าจะจับโพสต์ท่าไหนก็เท่ทั้งนั้น (ยกเว้นจะโพสต์เสื่อมๆกันเองนะ  ) ต่อออกมาแล้วรู้สึกพอใจมากๆ ความรู้สึกเสียดายเงิน
ตอนซื้อ พอต่อเสร็จปุ๊บก็รู้สึกคุ้มค่าขึ้นมาทันทีเลย โมตัวนี้เราสามารถแปลงร่างได้สองร่าง ซึ่งร่างที่สองคือร่าง FB นั้น ใช้การถอดประกอบ
ชิ้นส่วนบางชิ้นส่วนเข้าไป แต่โครงในยังเหมือนเดิม โดยส่วนตัวแล้วผมชอบร่างธรรมดามากกว่านะ เพราะร่าง FB ดูหนาๆไปหน่อย แล้วก็
ค่อนข้างโพสต์ท่าได้ยากกว่าร่างธรรมดา (ร่างธรรมดาโพสต์มันส์มากครับ ขอบอก  ) แต่ก็ไม่ใช่ว่าร่าง FB มันไม่ดีนะครับ
มันเท่มากเลยล่ะ อีกอย่างโมตัวนี้แข็งแรงมาก เพราะใช้น็อตแทบทั้งตัวเลย (ใช้น็อตทั้งหมด 38 ตัว) แล้วตัวนี้ก็มีฐานที่เป็นโรงซ่อมบำรุง
แถมมาด้วย ตัวฐานนั้นอลังการณ์งานสร้าง และใหญ่มาก ตอนนี้ผมต้องเก็บฐานลงกล่องไปแล้ว เพราะไม่มีที่วาง ฮ่าๆ ซึ่งหากใครที่กำลัง
ลังเลว่าจะซื้อดีไม่ซื้อดีอยู่ รีวิวนี้ก็น่าจะทำให้ท่านตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ

เอาล่ะ แพล่มมายาวแล้ว เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ และสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากดูรูปตรงไหนเป็นพิเศษเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นตัวโม
กล่อง แผง หรือคู่มือ หรืออื่นๆ ก็รีเควสมาได้นะครับ ผมจะถ่ายมาให้ดูครับผม

เริ่มที่กล่องกันเลยครับ กล่องใหญ่อลังการแล้วก็สวยมาก ผมชอบนะ ดูเรียบหรูดี








ลองเทียบกับกล่อง MG ไซส์กลางดู


เทียบกับ MG ไซส์ใหญ่ยาวก็ยังใหญ่กว่าในทุกๆมิติ


เทียบกับ HG 1/144 นี่คนละเรื่องเลยทีเดียว


ชั่งน้ำหนักให้ดูเลยดีกว่า ฮ่าๆๆ  โดยน้ำหนักที่ชั่งได้คือ 5.2 กิโลกรัม
ตอนซื้อนี่ผมแบกกล่องนี้กับ MG Kampfer ขึ้นรถกลับคนเดียวเลย (จากยูเนียนมอลล์ไปรังสิต)


เปิดกล่องออกมาก็พบกับกล่องข้างในสองกล่อง กล่อง A กับกล่อง B
ที่แบ่งเป็นสองกล่องก็เพราะว่า..............เพราะว่าชิ้นส่วนมันเยอะครับ แค่นั้นแหละครับไม่มีไร 




เปิดกล่องข้างในกันบ้าง


ทั้งหมด 27 แพ็ค 43 แผง เห็นแผงแล้วอยากจะเป็นลมครับ เตียงผมนี่ 5 ฟุตนะครับ 


แล้วแผงเยอะๆอย่างงี้ทำยังไงถึงจะต่อง่ายๆ สะดวกๆหน่อยล่ะ บางคนก็เอาแผงมาเรียงตัวอักษรกัน
นั่นก็โอเคครับ แต่ยังไม่โอที่สุดเพราะเวลาจะหยิบก็ต้องมานั่งท่อง A B C กันอยู่ดี บางตัวอักษรก็มี
สองแผงบ้าง วิธีง่ายๆที่จะมาแนะนำก็คือ เอาเทปกาวมาแปะลองเขียนตัวอักษรลงไปเลยครับ จบเลย


แผงเยอะแค่ไหนก็ บ่ ยั่นแล้วครับ 


คู่มือขนาดใหญ่ (A4) และหนาอยู่พอสมควร




ข้างในเป็นขาวดำหมด (ต้องเรียกว่าขาวน้ำเงินเข้มสินะ - -*)


Instruction Manual เป็นสีหมดทั้งเล่ม เล่มเล็กกว่าคู่มือนิดนึง




มีเรื่องราวต่างๆให้อ่านมากมาย แต่อ่านไม่ออกครับ 


Marking Guide กับ Coloring Guide ก็อยู่ในเล่มนี้ฮะ




ห่อชิ้นส่วนพิเศษต่างๆมี 7 ห่อด้วยกัน มีน็อตให้มาทั้งหมด 43 ตัว (ต่อเสร็จเหลือ 5 ตัว ใช้ไป 38 ตัว)


ดีคอลหนึ่งเดียวที่แถมมา เป็นมาร์กกิ้งซีลแผ่นใหญ่หนึ่งแผ่นครับ (ทำไมไม่แถมดีคอลน้ำแว้.... )


ชิ้นส่วนใหญ่ๆมากมายก่ายกอง






บีมที่ให้มาต้องถูกใจพี่ตูน บอดี้สแลมแน่ๆ เพราะพี่ตูนบอกว่า "อะไรๆก็สีจมปู สีจมปู" ฮ่าๆ 


นิ้วมือก็เป็นแบบสำเร็จ แยกมาให้ทุกนิ้วเหมือนกับ PG ตัวอื่นๆ


แผง PC สามแผง


ชิ้นที่เป็นพวกแกนไฮดรอลิคก็ชุบเงินมาให้เลย


หนทางยังอีกยาวไกล (มาก) เริ่มเลยดีกว่า 


ชิ้นส่วนทั้งหมดของเท้าทั้งสองข้าง นี่แค่เท้านะ ทำไมมันเยอะจังฟะ 


รวมร่าง 


ชิ้นส่วนทั้งหมดของขาทั้งสองข้าง


ตรงข้อเท้ามีไฮดรอลิคอยู่


บิดซ้ายบิดขวาก็ไม่มีปัญหา




แต่ถ้าบิดมากไป.......
จริงๆตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ เพราะตอนใส่เกราะแล้วมันบิดไม่ได้เยอะขนาดนี้หรอก


ตรงข้อเท้ามีสปริงด้วยฮะ กดๆ ยืดๆ เด้งๆ ได้ด้วย




ตรงชิ้นใสทำออกมาได้สวยดี มีประกายด้วย


เค้าทำกันยังไงไปดู






รวมร่าง 


Full Hatch-Open Maintenance Mode


เทียบขากับ MG นี่แค่ขานะ 




ชิ้นส่วนทั้งหมดของเอวกับกระโปรง


ตรงแกนที่เอาไว้เสียบขาใช้แกนเหล็กเหมือนๆกับ PG ตัวอื่น


ดูแข็งแรง บึกบึนดี








ชิ้นส่วนทั้งหมดของ Core Fighter II


ลำใหญ่มาก






เทียบกับ MG เซต้าจัง 2.0


แปลงเป็น cockpit ของ Gundam








 


ชิ้นส่วนทั้งหมดของเกราะอก (ไม่ใช่เกาะอกนะ  )


ในส่วนที่มองไม่เห็นก็ยังทำรายละเอียดได้ดีเยี่ยม




รวมร่าง 








ชิ้นส่วนทั้งหมดของส่วนหัว


อย่างที่เราๆท่านๆทราบกันดีว่า PG อย่างน้อยต้องเปิดไฟที่หัวได้ นี่คือแผงวงจรภายในครับ
ง่ายๆ สบายๆ เจอ PG Wing Zero Custom ของ TT เข้าไป นรกกว่านี้เยอะครับ 


เนื่องจากไม่มีสติ๊กเกอร์ ส่วนตาก็มาแบบนี้เลยครับ


ใช้ถ่าน CR1220 หนึ่งก้อนครับ ใส่ลงไปในตลับรังถ่านเลย


ด้านหลังหัวมีช่องใส่รังถ่านและสวิทช์ปิดเปิดไฟอยู่


ติดแล้วๆ  ไฟจริงๆเป็นสีออกเหลืองๆนะครับ แต่ถ่ายออกมาดันเป็นเขียว


หน้าตาหล่อมวากกกกกกกกกก 






เวลาจะเปิดสวิทช์ไฟต้องถอดชิ้นนี้ออกก่อน ถอดง่ายครับไม่แน่นแต่ก็ไม่หลวมจนหลุดง่าย ดึงสบายๆครับ


สังเกตตรงคอมีไฮดรอลิคด้วย ลึกล้ำจริงๆ


หน้าตาจะเปลี่ยนไปตามมุมที่เรามองครับ เท่จริงๆ




เทียบกับหัวของ MG Gundam Mk II คนละเรื่องกันเลย


Full Hatch-Open Maintenance Mode




ลองประกอบกันดู


ชิ้นส่วนทั้งหมดของแขน ผมดันลืมถ่ายครับ ลืมได้ไงไม่รู้ 
โผล่มาก็เป็นมือกันเลยทีเดียว มือสวยมากครับ ข้อแน่น แข็งแรง


แขนทั้งสองข้างครับ


เอามาประกอบกับลำตัวก่อน


เป็นตัวแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา 










เทียบกับ MG Zaku II ของท่านชาร์


เทียบกับคู่ปรับ....เอ่อ.... 


Full Hatch-Open Maintenance Mode เท่โฮกๆเลยครับ 




ชิ้นส่วนของปืนสองกระบอกที่ให้มา


แมชชีนกันคุ้นๆมั๊ยครับ 


แมกกาซีนของแมชชีนกันถอดได้ แล้วก็มีกระสุนอยู่ข้างในด้วย ถ้าทำสีนี่แจ่มหลายเลย


โพสต์ท่าเท่ๆซักหน่อย








มาถึงชิ้นส่วนของโล่บ้าง


ใหญ่มากมายครับพี่น้อง




สไลด์เก็บได้ฮะ


เทียบกับโล่ที่ใหญ่ที่สุดของ MG อย่าง GP02A คู่ปรับของพระเอกเรานั่นเอง งานนี้ไม่ห่างกันมากแฮะ


เลือกถือโล่ได้สองแบบครับ แบบแรกใส่ไว้หลังแขน




อีกแบบคือใส่ไว้ข้างๆแขน ผมว่าแบบนี้ดูดีกว่านะ แต่มันก็แล้วแต่จับโพสต์ท่าแหละเนอะ




โพสต์ท่ากันหน่อย
















มาถึงตรงนี้หลายคนบอก "เอ๊ะ แล้วมันจะแปลงร่างเป็นอีกร่างได้ไง" ก็นี่ไงครับ กำลังจะบอกอยู่
เรามาดูชิ้นส่วนที่เราต้องประกอบเพื่อใช้แปลงเป็นร่าง FB กันครับ

ชิ้นส่วนทั้งหมดของไหล่ครับ


รวมร่าง 


เปิดตรงนี้ขึ้นมา ข้างในมีสวิทช์อยู่ครับ


กดแล้ว Thruster จะเด้งออกมา เพราะข้างในมีสปริงอยู่ครับ กดมันมาก เหมือนกดปากกาเล่น ฮ่าๆ 


ชิ้นส่วนทั้งหมดของเกราะอกครับ (อีกครั้ง...ไม่ใช่เกาะอกนะครับ  )


รวมร่าง 


ชิ้นส่วนทั้งหมดของกระโปรงครับ


รวมร่าง 


ชิ้นส่วนทั้งหมดของช่วงล่างครับ ก็มีตรงน่องกับเท้าครับ


เท้านี่ไม่ต้องถอดเปลี่ยนครับ สวมเข้าไปทั้งอย่างนั้น เหมือนรองเท้าเลยครับ


ชิ้นส่วนทั้งหมดของ Core Fighter II Fb ครับ


ลำใหญ่สุดๆ 






เทียบกับ Core Fighter II ธรรมดา


เทียบกับ Wave Rider MG เซต้าจัง 2.0


แปลงเป็น Cockpit ของ Gundam






ครบแล้วครับ ทีนี้ก็ถอดประกอบกันเลย อย่างตรงน่องก็ถอดของเดิมออกมา แล้วเอาเกราะ FB ใส่ของไปแทนครับ


เกราะเอวก็ต้องเปลี่ยนครับ ต้องเป็นสีขาว


ครบแล้วครับ ก็เอาทุกส่วนมาต่อกันเลย


ตรงใต้เกราะอกมีสวิทช์อันเล็กๆอยู่ เลื่อนมาข้างหน้าได้


พอเลื่อนแล้ว Thruster ตรงอกก็จะออกมาฮะ


เท่มากฮะ 






โพสต์กันนิดหน่อย




มาถึงส่วนของโรงซ่อมบำรุงกันบ้าง คนเดียวล่อไปสี่แผงเต็มๆเลยครับ


ชิ้นส่วนทั้งหมดครับ เยอะมากกกก เก็บเกจกันมันส์เลย 


เสร็จแล้วครับ ใหญ่ๆ และอลังสุดๆครับ








ลองเอา MG มาตั้งดู แทบจะกางเนทเตะตะกร้อได้เลยทีเดียว (เวอร์จริง -*-)


ลากันไปด้วยสามภาพนี้แล้วกันครับ อันนี้แบบครบเครื่องครับ






จบแล้วคร้าบบบ รีวิวอันแสนโหดและยาวนาน เฮ้อ เสร็จซะที จากนี้คงอีกนานเลยครับกว่าจะได้รีวิวอีก
เพราะตอนนี้หมดคลังแล้วครับ ฮ่าๆ ต่อจากนี้คงเริ่มเป็นงานทำสีพู่กันตัวที่ดองๆไว้กันแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมาตลอดครับ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ขอบคุณทุก Like และ Unlike ชอบไม่ชอบยังไงก็พูดคุยกันได้นะครับ โอกาสหน้าไว้เจอกันใหม่ครับผม บ๊ายบายยยยย

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตัวสุดท้ายในกระทู้เก่าขุดมาเล่าใหม่แล้วนะครับ จริงๆมันมีก่อนหน้านี้อีกสามตัวแต่ผม Backup ไว้ไม่ทัน
ก็ไม่เป็นไรครับ เมื่อกี๊ไปนับๆดู มีที่ยังไม่ต่ออีกประมาณ 30 ตัว เก่าบ้างใหม่บ้าง นอกไลน์บ้าง จากนี้ก็จะทยอยทำรีวิวเรื่อยๆเหมือนเดิมครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[kana-art]

ชอบโรงเก็บหุ่น เห็นแล้วนึกถึงตัวต่อเลโก้เลย

[afee]

อยากได้โรงเก็บหุ่นมากๆ >.<

[buggy]

สุดยอดโมเดลในตำนานตัวนึงเลยครับ

[itee]

โมในฝันเลยล่ะครับตัวนี้ เห็นรีวิวแล้วไฟกิเลสลุกโชน คลาดกันหลายครั้งละ

[homenutt]

ว้ากก สุดยอดมาก
รีวิวละเอียดยิบๆ อลังงานสร้าง
นี่แค่ต่อดิบๆ แล้วถ้าทำสีอีกล่ะครับ 

ขอบคุณมากครับ

[puchithaha]

รีวิวดีมากเลยอ่ะ ละเอียดยิบๆ

[Aerries]

ขอบคุณมากครับที่ทำมาให้ได้ชมกัน

[kit556]

เคยเห็นแบบทำสีเต็มสูบที่ร้านขายโมใน MBK
เห็นแล้วจี๊ดอยากได้เลย มันคืออภิมหาโปรเจคในฝันของคนเล่นพลาโม 

[Mr.White]

ชอบรีวิวมากครับ ละเอียดดี ได้เห็นในมุมที่อยากเห็นชัดเจนมาก
ตอนที่ผมตัดสินใจว่าจะต้องมี PG กับเขาสักตัวให้ได้ ตัวเลือกอันดับแรกเลยคือเจ้าตัวนี้
แต่ตอนนั้นหาซื้อไม่ได้ก็เลยตัสินใจเอาเจ้า STRIKE มาแทน เห็นรีวิวแล้วทำให้อยากได้ขึ้นมาเลยครับ
Mr.white