"ปลดLimit!!!! โค้ด คิริน!!!!!"EG-X "Soulgain"Axel Almer
อดีต เคยเป็น Ace Pilot ของ กองกำลังโลกมาก่อน โดยมีคู่หูคือ เคียวสุเกะ หรือที่ถูกเรียกว่า Beowulf โดยหลังจากนั้นเขาเริ่มสังเกตุได้ถึงความผิดปรกติของ Beowulf ที่มีท่าทีแปลกไป จนสุดท้ายก็คลุ้มคลั่งทำร้ายพวกเดียวกัน Axel เลยต้องออกจาก EF มาอยู่กับกลุ่ม Shadow Mirror แทน โดยกลุ่ม Shadow Mirror เป็นกลุ่มอิสระ เหมือนกับ titan หรือ Divine Crusade โดยยึดคติว่า มนุษย์จะพัฒนาต่อไปได้ จำเป็นต้องมีสงคราม กลุ่มๆนี้จึงทำการรบตลอดเวลาเพื่อเตรียมรับมือการรุกรานของพวกต่างดาว Axel ที่ต้องการพลังมาหยุด Beowulf จึงย้ายมาอยู่ฝั่ง Shadow Mirror
หลังจากการรุนรานของพวกต่างดาว ทั้ง Einst และ แอโรเกเตอร์ โลกล่มสลายไปมาก จนสุดท้าย Shadow Mirror ที่เห็นว่าจะรับมือพวกต่างดาวนี้ไม่ใหวแล้วจึงเริ่มแผนการข้ามมิติด้วยเครื่อง XN เพื่อไปเริ่มต้นใหม่ โดย axel ที่ได้รับ Soulgain มาจากสถาบันวิจัย เทสล่า ก็ออกมายันทัพ Beowulf ที่ตามรุกไล่มา โดยปล่อยให้กองทัพ Shadow Mirror ที่เหลือเดินทางข้ามมิติไปก่อน โดยที่ตัวเขาจะยัน Beowulf ตามลำพัง หลังจากกองทัำพได้เดินทางข้ามมิติไปหมดแล้ว Axel จึงเดินทางไปทีหลัง ทำให้เขาพลัดกับพวก Shadow Mirror คนอื่นๆ โดยเดินทางมาก่อนคนอื่นล่วงหน้า
โดยเหล่า Shadow Mirror ได้ข้ามมิติมายังโลกของ OG โดยทันทีที่ Axel ข้ามมิติมา ก็พบกับเคียวสุเกะ หรือก็คือ Beowulf ในโลกของเขา เขาจึงตรงรี่เข้าไปลุยกับเคียวสุเกะทันที และหลังจากนั้นก็เก็บตัวเพื่อรอกองทัพ Shadow Mirror เดินทางข้ามมิติมา หลังเดินทางข้ามมิติมา กองทัพ Shadow Mirrorก็ประกาศสงครามตามอุดมการณ์ที่ว่า สงครามทำให้มนุษย์พัฒนาต่อไปได้ โดยหวังว่าหลังชนะ จะได้กลืนดาว และเสริมความแข็งแกร่งให้กับตนเอง และรบต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้กองกำลังของตนเองแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเตรียมรับมือกองทัพต่างดาวที่จะมารุกราน
ซึ่งตัว Axel เองก็รบกับ เคียวสุเกะ (Beowulf) หลายครั้ง โดยเขาสัมผัสได้ว่า เคียวสุเกะในโลกนี้นั้นต่างจากโลกของเขา จากการที่ Lamia มนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นของฝ่าย Shadow Mirror ยอมสละตนเองเพื่อช่วยพวกเคียวสุเกะ หรือการที่เคียวสุเกะยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อช่วยผู้อื่น จนสุดท้าย Axel สามารถชนะ อัลไอเซ่นของเคียวสุเกะได้ และจากการตรวจสอบจึงพบว่า อัลไอเซ่นของโลก OG นี้ไม่ได้โดนครอบจำจาก Eins เหมือนที่โลกของAxel โดน จากการที่ตัดแขนขาไปแล้วไม่งอกหรือว่อมแซมส่วนที่เสียหายได้ เหมือนกับโลกของเขาที่โดน Einst กลินกิน ทำให้งอกใหม่ได้ แต่ก่อนที่ Axel จะเผด็จศึก ก็ได้ถอนกำลังออกไปก่อน หลังจากนั้น อัลไอเซ่นของเคียวสุเกะจึงอัพเกรด มาเป็นอัลไอเซ่นรีเซ่
จนสุดท้าย axel กับเคียวสุเกะ จึงตัดสินกันที่ White Star โดย Axel เป็นฝ่ายแพ้ และยอมรับในตัวเคียวสุเกะ โดยยอมรับว่าเคียวสุเกะในโลกนี้ต่างจาก Beowulf ซึ่งบางทีอาจเป็นเพราะมีคนคอยอยู่เคียงข้าง ทำให้เขาไม่ถูกความมืดครอบงำจิตใจ จนรวมร่างกับพวก Einst
จนสุดท้ายก่อนที่เขาจะตาย เขาได้รำพึงถึง Lemon หัวหน้าหน่วยวิจัยของ Shadow Mirror ที่เขามีใจให้ ซึ่งเป็นการเรียก อัลฟีมี่ -ครึ่ง Einst ครึ่งมนุษย์ที่เป็นร่างโคลนของ excellen browning ให้มาหาโดย อัลฟีมี่ร่างกายกำลังสลาย เพราะต้นกำเนิดของ Einst ถูกทำลาย ทำให้ Einst ทั่วโลกสลายตาม อัลฟีมี่เลยสิงร่าง Axel ทำให้เขารอดตายมาได้
หลังจากนั้นหน่วย Cry Wolf ที่มาสำรวจซาก Whte Star จึงพบซากของ Soulgain จึงเก็บกุ้ Axel มาได้
โดย Axel ได้สลบไป 6 เดือน ซึ่ง Soulgain ก็ซ่อมเสร็จพอดี ทันใดนั้นพวก ดูมินัส ศัตรูชุดใหม่ ได้ออกมาโจมตีพอดี Axel เลยจะใช้หนี้บุญคุณให้โดยการออกไปช่วยหน่วย Cry wolf สู้ โดยทันใดนั้น อัลฟีมี่ที่สิงร่าง Axel อยู่ก็ออกมา และสร้างร่างใหม่ และอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยหน่วย Cry Wolf และสุดท้ายในขณะเดินทาง Axel ก็ไปพบ เคียวสุเกะที่ตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง ที่ไม่สามารถช่วยเพื่อร่วมทีม Lamia ได้ โดยภายหลังถูก ดูมินัสล้างสมองให้มาสู้กับพวกเคียวสุเกะ โดย Axel มี่ผ่านมาเห็นเข้า ด้วยความกลัวว่าความสิ้นหวังจะทำให้ เคียวสุเกะกลายเป็น Beowulf แบบในโลกของเขา เขาจึงสอดมือเข้ามาช่วยด้วย โดยในขณะที่ Lamia กำลังจะฆ่าตัวตายด้วย Code ATA Axel ก็มาแก้ไขโปรแกรมให้โดยใช้Code DTD เพื่อ Reboot ความทรงจำมายังช่วงที่ก่อนจะโดนดูมินัสจับ ทำให้ Lamia รอดมาได้ ซึ่งทำให้เคียวสุเกะเชื่อใจ Axel และสัญญาว่าจะใช้หนี้นี้คืนให้
หลังจากนั้น Axel กับ อัลฟิมี่ก็ร่วมมือกับหน่วย OG ถล่มดูมินัส Dark Brain และ Neo Granzon หลังจากนั้นก็แยกตัวออกมา โดยหลังจากที่โลกสงบสุข Axel เลยไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีในโลกที่ไร้สงครามแบบนี้ เลยคิดจะออกเดินทาง โดนอัลฟีมี่ก็ขอเดินทางตามไปด้วย (ซึ่งทั้งคู่ก็หลงข้ามประตูมิติไปอยู่ในโลกของ Endless Frontier ซะงั้น....)
EG-X Soulgain
เป็นหุ่นตระกุล Super Robot ที่มีส่วนสูงกว่า 40 เมตร ถูกพัฒนาโดยสถาบันวิจัย เทสล่า ในโลกของShadow Mirror ซึ่ง Axel ไปฉกมาได้
โดยตัวหุ่น เป็นหุ่นที่พัฒนาต่อมาจาก Earthgain โดยเป็นหุ่นเน้นการต่อสู้ระยะประชิดเป็นหลัก และเคลื่อนใหวด้วยระบบไดเรคโมชั่น ที่จะขยับตามตัวนักบินเป็นหลัก ตัวหุ่นมีความสามารถในการรักษาตนเอง และใช้พลังชีวิตของนักบินเป็นพลังงานหลัก และแปรเปลี่ยนสภาพอารมณ์ของคนขับมาเป็นพลังงานขับเคลื่อน
อาวุธหลัก ได้แก่มือและเข้า เข่าและศอก ระยะใกล้คือว่าน่ากลัวมาก เพราะเป็นหุ่นที่สร้างมาเพื่อรบประชิดโดยเฉพาะ โดยตามลำตัวจะมีส่วนปล่อยพลังงานเพื่อเพิ่มพลังทำลาย ผนวกกับความสามารถในการรักษาตนเอง และเกราะของซุปเปอโรบอท จึงเป็นหุ่นที่สร้างมาเพื่อรบแนวหน้าโดยเฉพาะ
โดย Soulgain มีท่าตามสัตว์ 4 ทิศ คือ มังกร เต่าฟินิกส์ เสือขาวและตรงกลางคือกิเรน
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=5PddQDEIbFk[/youtube]
ท่าไม้ตาย
eiryurin (青龍鱗) - เกล็ดมังกรฟ้า ปล่อยพลังรูปคลื่นมังกร เป็นท่าระยะใกล
Genbu Gōdan (玄武剛弾) - กระสุนเต่าดำ ปล่อยหมัดควงสว่านใส่ศัตรู เป็นท่าระยะใกล
Byakko Kō (白虎咬) - กรงเล็บสมิงขาว ท่าต่อเนื่อง โดยการเข้าไปต่อคอมโบอัดศัตรู
Mai Suzaku (舞朱雀) - กระบวนท่านกไฟ ปล่อยกรงเล็บที่หลังแขน แล้วเข้าไปต่อคอมโบอัดศัตรู
Kirin (麒麟) - โค้ดกิเรน โจมตีด้วยท่าคอมโบ แล้วจบด้วยการชาร์จพลังทั้งหมดที่เขี้ยวหลังแขน แล้วซัดใส่ศัตรู
โดย Soulgain มีชื่อเล่นว่า "หนวดขาว"
Shadow Mirror / Beowulf
ผู้ก่อตั้ง กองทัพ Shadow Mirror คือ วินเดลล์ โดยมีอุดมการณ์ที่จะไม่ให้สงครามหมดไปจากโลกนี้ โดยเชื่อว่าการที่มนุษย์พัฒนาตนเองอย่างก้าวกระโดด สิ่งที่ผลักดันสิ่งนั้นก็คือสงคราม โดยการทำสงครามเพื่อเร่งการพัฒนาของมนุษย์ เพื่อให้เหล่ามนุษย์แข็งแกร่งพอที่จะรับมือเหล่ามนุษย์ต่างดาว ทั้ง Einst และ แอโร่เกเตอร์ ที่จะมารุกรานโลกในอนาคต แต่รวมๆหลักการจะคล้ายๆกับกองทัพ Divine Crusade ที่รบเพื่อให้โลกได้ตระหนักถึงภัยที่กำลังมา
โดยโลกของ Shadow Mirror นั้นต่างจากโลก OG ที่พวกเคียสุเกะอยู่ โดยที่โลกของเคียวสุเกะ เหตุการณ์เครื่องบินตก ทำให้ผู้คนทั้งลำตายหมด ยกเว้นเคียวสุเกะ โดยเขาได้ช่วยเด็กที่กำลังจะตายอีกคนคือ เอกเซเรน ที่ต่อมากลายเป็นนักบินคู่หูของเขา แต่ในโลกชาร์โดวมิลเลอร์ มีแค่เคียวสุเกะที่รอดมาเพียงคนเดียว รวมถึงเมเทโอที่ตก หรือการที่เหล่า แอเรเกเตอร์ปรากฏตัวเร็วกว่าโลกของ OG และเซนเกอร์ซอนโบลตายในที่รบ หลายสิ่งหลายอย่างผลักดันให้เคียวสุเกะ ตอบรับคำของพวก Einst และรวมร่างกับ Einst จนสุดท้าย axel ทนไม่ใหวกับพฤติกรรมการฆ่าล้างบาง หรือทำลายล้าง และจุดมุ่งหมายของBeowulf ที่จะทำลายล้างโลกและสร้างมันขึ้นมาใหม่ ทำให้ Axel ต้องเข้ากลุ่ม Shadow Mirror และภายหลัง หลังจากเดินทางข้ามมิติมาเขาก็เจอกับเคียวสุเกะในโลก OG ทำให้เขานึกว่าจะเหมือนกับเคียวสุเกะในโลกของเขา ทำให้เขาใส่อารมณ์อัดเคียวสุเกะอย่างเต็มที่ โดยภายหลังถึงจะรู้ว่าเป็นคนละคนกัน แต่ก็ยังอยากจะหยุด เคียวสุเกะ เพราะตัวตนของเขานั้นอันตรายมาก ถ้ากลายเป็น Beowolf ไปแล้วก็ยากจะหาคนมาหยุดยั้ง เพราะโลกของเขาโดนถล่มมาโดย Beowulf มาแล้ว ซึ่งในภายหลังเขาก็เริ่มเชื่อใจเคียวสุเกะ ในขณะเดียวกันเคียวสุเกะก็เริ่มเชื่อใจเขาจากการที่ Axel ช่วยชีวิต Lamia เพื่อนร่วมทีมของเขาเอาใว้ โดยบอกว่าหนี้นี้จะใช้คืนให้ในอนาคต
โดยสุดท้ายพอจะสรุปได้ว่า การที่เคียวสุเกะในโลก OG ไม่กลายเป็นพวก Einst นั้น อาจจะมาจา่กการที่เคียวสุเกะมีเพื่อนๆอยู่เคียงข้างก็ได้ เพราะเคียวสุเกะในโลก Shadow mirror ไม่มีเอกเซเรนเคียงข้าง และเซนเกอร์ หัวหน้าเก่าเคียวสุเกะก็ตายในที่รบ
Einst
สิ่งมีชีวิตต่างดาวโดยมีหน้าที่ควบคุมกฏระเบียบของดวงดาวต่างๆ โดยดาวดวงใด หรือสิ่งมีชีวิตใหนที่เริ่มไม่เป็นระเบียบ หรือระบุว่าเป็นภัยอันตราย Einst จะทำการรุกราน กลืนกิน ทำลายล้าง และสุดท้ายคือสร้างใหม่ เพื่อทดแทนวัฒนธรรมเดิม (ซึ่งก็คล้ายๆคำพูดของBeowulf ที่ว่าจะสร้างโลกใหม่) เพื่อลบล้างความสับสนนั้นเสีย
โดย Einst ได้สร้างครึ่งมนุษย์ครึ่ง Einst ขึ้น นั่นก็คืออัลฟีมี่ โดยเป็นร่างโคลนของเอกเซเรน คู่หูของเคียวสุเกะอีกทีนึง โดยเชิญให้เคียวสุเกะมาร่วมกลุ่ม เพื่อจะให้เป็นมนุษย์ยุคถัดไป หลังล้างโลกไปแล้ว ซึ่งเคียวสุเกะในโลกOG ก็ได้ปฏิเศษไป (ส่วน Beowulf ตอบตกลงเลยกลายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่ง Eint) โดยภายหลัง อัลฟีมี่ ที่ได้พบทั้งเคียวสุเกะ และ เอกเซเรน จึงย้ายฝ่ายมาช่วยพวกเคียวสุเกะในตอนท้ายๆ
ในภายหลัง ต้นกำเนิดของพวก Einst ได้ถูกทำลายลง Einst ทุกตัวจึงสลายไป รวมถึงอัลฟีมี่ด้วย ซึ่งก่อนที่อัลฟีมี่จะสลายไป ได้ตอบสนองคำร้องของ Axel ที่คิดถึง Lemon ก่อนตาย ซึ่ง Lemon ก็คือเอกเซเรนที่ตายไปแล้วในโลก Shadow Mirror อัลฟีมี่ที่กำลังสลายจึงมาหา Axel และสิงร่าง Axel ทำให้ทั้งคู่รอดมาได้
หลังจากที่สร้างร่างใหม่ได้ อัลฟีมี่จึงเดินทางตาม Axel จนจบภาค Gaiden หลังชนะพวกชูร่า ดาร์คเบรน และ ชูว์แล้ว Axel ที่ตัดสินใจออกเดินทาง โดยอัลฟีมี่ตัดสินใจออกเดินทางตามไปด้วย
มาว่ากันที่ตัวโมเดลกันมั่ง
ชิ้นใสทั่วตัว เป็นจุดปล่อยพลัง
ด้านหลัง กับบูสเตอร์ตามตัว
ชิ้นใสซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Soulgain
อาวุธหลัก มีแค่ร่างกาย
กำปั้นล้วนๆ
ตัวหุ่นใช้ระบบโมชั่นคอนโทลน เคลื่อนใหวตามนักบินเป็นหลัก ทำให้แอคเซลนั้นเก่งเกินมนุษย์จนไปลุยในโลก Endless Frontier ได้
อนึ่ง ลุงเซนเกอร์ก็ไปแจมใน โปรเจคครอสโซนเช่นกัน......
อาวุธ กำปั้นล้วนๆ......
เอฟเฟคพาร์ท หมัดจรวด (กระสุนเหล็กเต่าดำ)
หลังติดมีล้มได้ เพราะหนัก
แอคชั่น
มือแบบชาร์จพลัง ตอนใช้ท่า เซย์ริวริน
สนับมือด้านหลัง ที่ยื่นออกมาตอนใช้ท่าไม้ตาย
แอคชั่นยาว
การทำสี : ไปดูกระทู้ WIP เอาละกัน
http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=25763.0รวมๆก็ไม่ค่อยอะไรมากนะ คือกั้นพ่นไม่ค่อยเยอะแหล่ะ อุดขัดก็น้อย ถือว่าสบายแล้ว ปวดหัวแค่ตอนยัดชิ้นใสนิดหน่อย สำหรับโมตัวนี้เป็นโมยุคหลังของโคโตแล้ว ที่การออกแบบดีกว่าเดิมมาก แต่ก็แพงขึ้นด้วยเช่นกัน เฮ้อ.....
สี
น้ำเงิน : Jean Blue + ขาว (SNP)
ขาว : ขาว
ดำ : ดำ + ขาว + น้ำเงิน
ตา : เงินตามด้วมเครียร์เรด
ชิ้นใส : เครียร์กรีน
โอมาเกะ
เทียบไซส์กับ SRW ตัวอื่นๆ
เทียบกับอัลไอเซ่น จะเห็นว่าสูงกว่าพอสมควร
รวมหมู่สีฟ้า
แดงกับน้ำเงิน
รวมๆก็โอเคนะ จุดขยับดี ลูกเล่นพอสมควร แต่หลังๆโมเดลสาย SRW นี่ออกช้ามาก เพราะโคโตแตกไลนน์เยอะมาก......
ว่าแล้วก็รอ SRW OG2 บน PS3 ต่อไป จะได้หยุดทำโมยาวๆซะที 555
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=1nYnb41kpqY[/youtube]