[จากบอร์ดเก่า] วิธีพ่นสี ขั้นต้น โดยคุณ Narokiพอดีเป็นภาพเก่าๆ เก็บใว้นานแล้วล่ะ พอดีเข้าไปคลังภาพเก่าๆ แล้วเจอมา
ก่อนอื่นที่จะใช้เลย คือ สีกระป๋อง เพราะชิ้นส่วนคราวนี้ค่อนข้างใหญ่ เอาแอร์บรัชพ่นคงนาน
สีกระป๋องที่ใช้ก็ ของ ทามิย่า
ที่หาซื้อได้ก็มี สีสูตรทามิย่า และ กันเซ่ ซึ่งเป็นสีสำหรับพ่นพลาสติก
แต่ใครอยากใช้สีของ Layland Win Hato ก็ได้ตามใจ แต่สีพวกนั้นมันเป็น "สีแกะเหล็ก" ไม่ใช่สีพ่นพลาสติก จึงอากมีการหลุดร่อนจากการขยับได้ จึงควรใช้สีรองพื้นพ่นก่อน เพื่อให้สียึดเกาะดีขึ้น
สีรองพื้นไม่จำเป็นต้องพ่นเสมอไป แต่ส่วนใหญ่จะพ่นเพื่อปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น หรือ เพื่อเช็คลายละเอียด เพราะสีรองพื้นมีคุณสมบัติที่ขัดง่ายด้วยกระดาษทราย
เรื่องของสีรองพื้นประเภทต่างๆ ขอละใว้ละกัน
ดังรูปที่ใช้ ก็เป็นสีรองพื้นสีขาว ที่ใช้สีรองพื้นเพราะ สีรองพื้นจะพ่นทับสีอื่นได้ง่ายกว่า เพราะเนื้อสีมีความหนา
ที่พ่นสีรองพื้นขาวเพราะผิวที่พ่นมีสีแดง สีรองพื้นขาว เหมาะกับการพ่นสีอ่อนๆ เช่น สีแดง สีเหลือง สีที่พ่นออกมาจะมีความสด
ส่วนสีรองพื้นสีเทา เหมาะกับ สีขาว หรือ สีเทา เพราะเนื้อสีมีความเข้ม
เวลาพ่น ควรพ่นกลางแดด หรือ วันที่ฝ้าโปร่ง ยิ่งสีที่พ่น พ่นกลางแดด สียิ่งเงา เพราะสีจะแห้งอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวสีหลังแห้งมีความเงาสูง
ส่วนถ้าพ่นกลางฝน หรือ ที่อับๆ จะทำให้สีแห้งช้า และจะเกิดผลเสียได้ เช่น สีไม่เงา หรือขึ้นฝ้าขาว ก็คือมีแต่ผลเสีย ถ้าไม่ลำบากจริงๆอย่าดีกว่า
เวลาพ่น ไม่ควรพ่นทีเดียวเสร็จ เวลาพ่น ควรพ่นจาก มุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่ง หรือพูดง่ายๆก็คือพ่นลาก จากด้านนึงไปอีกด้านนึง ไม่ควรพ่นจ่อ จุดเดิมนานๆ เพราะสีจะเยิ้ม
เวลาพ่น ถ้าสีไม่เข้ม เช่นดังรูป พ่นสีขาวแต่ยังเห็นสีแดงหน่อยๆ ควรปล่อยให้สีชั้นแรกแห้งไปก่อน แล้วค่อยพ่นสีชั้นต่อไปจะดีกว่า เพราะถ้าพ่นชั้นต่อไปโดยไม่รอสีให้แห้งก่อน สีจะหนา ทำให้แห้งช้าลง ไม่ควรใจร้อน
ดังรูป จะเห็นว่าพ่นไม่หมด แต่จะพ่นซ้ำหรือพ่นจ่อ สีก็จะเยิ้ม รอสีแห้งก่อนดีกว่าแล้วค่อนพ่นทับอีกที
ดังรูปจะเห้นรอยอุดขัดไม่ดีอยู่
ข้อดีของสีรองพื้นอีกอย่างก็คือ มันขัดง่ายกว่าสีทั่วไป สามารถเอากระดาษทรายลูบขัดได้โดยง่าย
ใหนๆก็ใหนๆ ล้างสีไปเลยดีกว่า
เวลาล้างสี อย่าได้คิดว่าจะล้างออกหมดจรดในรอบเดียว
เอาทินเนอร์ จุ่มกับ กระดาษทิชชู่ไปล้างได้เลย
ทินเนอร์ที่แนะนำคือ กันเซ่ ไม่กัดพลาสติกแน่นอน เคยลองของ Hobby แล้ว แช่นานๆก็แตกนะ........
เช็ดรอบที่2
เช็ดรอบที่ 3 ก็ยังเห็นคราบๆอยู่
เช็ดรอบที่ 4 สะอาดซะที
เสร็จแล้วก็เอากระดาษทรายลูบเล็กน้อย เพื่อความชัวร์ จากนั้นก็เอาไปล้างให้สะอาด
ต่อมาคือจะพ่นสีแอร์บรัช เอาชิ้นส่วนติดที่ยึดให้ดี ให้จับง่ายเวลาพ่นงาน
อุปกรณืหลักๆ ดังรูป ก็ จะเอาภู่กันจุ่มสี หรือจะใช้ ไม้คนสี ตักสีไปใส่แอร์บรัชก็ได้ดั่งใจไม่มีกฏตายตัว จากนั้นก็ใช้ดรอปเปอร์ดูดทินเนอร์ผสมตามความเหมาะสม
ส่วนตัวใช้ภู่กันนี่แหล่ะคนสี เสร็จแล้วก็ล้างให้สะอาด
ใช้ไม้คนสีก็ดี ล้างง่ายดี แต่ที่บ้านซื้อมา 4 อันหายหมด เสียดายตังเลยใช้ภู่กันดีกว่า = =''
เสร็จแล้วก็ลองพ่นเช็คดู ว่าผสม ทินเนอร์กับสีอัตราส่วนพอดีกันหรือเปล่า สูตรการผสมไม่มีตายตัว แนะนำให้พ่นลองดูเลยดีกว่า
ถ้าสีออกมาเป็นเม็ดใหญ่ๆ หรือ สากๆ นั่นคือผสมทินเนอร์น้อยไป คือ สีจะแห้งก่อนไปโดนโม จึงควรผสมทินเนอร์เพิ่ม
ถ้าสีเหลวไปคือ ผสมทินเนอร์เยอะไป ก็เอาเนื้อสีตักไปผสมเพิ่ม
เสร็จแล้วก็เอาไปปัก รอสีแห้ง (คงไม่มีใครถือคาใว้หรอก) จะใช้โฟม หรือ ดินน้ำมันก็ได้ตามใจชอบ
เอาคลิบหนีบกระดาษ แปะกาวช้างกับแท่งพลาสติกก็จับถนัดมือดี
อย่างชิ้นนี้ ไม่ได้พ่นสีรองพื้น ก็ไม่ได้ผิดกฏอะไร แค่พ่นแล้วมันดีกว่า เพราะแรงยึดเกาะของสีจะดีกว่า แต่ชิ้นนี้ไม่ได้ขยับอะไรมาก ไม่น่าถลอกเลยไม่ได้พ่น เท่านี้แหล่ะ
รอสีแห้งก่อน
เสร็จแล้ว เราจะมาทำสี ไฮไลท์กัน
สีไฮไลท์คือ การจำลองแสงเงาธรรมชาติ โดยการทำให้สีมีมิติขึ้น
ในรูปคือใช้ภู่กันตักสีขาวมาผสมขึ้นหน่อยนึง
ลองพ่นดู ดังรูปคือผสมทินเนอร์พอดีแหล่ว
พ่นไฮไลท์เสร็จแล้ว
เสร็จแล้วก็ล้างแอร์บรัช พอเป็นพิธี
ถัดมาที่ชิ้นเดิม หลังล้างสีก็พ่นสีใหม่ให้เสร็จสรรพ
หลังใช้งานให้คว่ำขวด แล้วพ่นสีทิ้งหน่อยนึง เพื่อไล่สี ไม่ให้ตันที่หัวสเ้ปรย์
ต่อจากนี้เป็นการพ่นด้วยแอร์บรัช ในตอนแรก จะพ่นสีน้ำเงินไปก่อน
เอาสีขาวพ่นรีด เพื่อให้ช่องดูเท่ากันมากขึ้น
พ่นสีแดงทัับ
ดูผิวงาน จะมีความลึกขึ้น มีมิติขึ้น นี่คือการพ่นไฮไลท์ ส่วนที่เป็นสีขาวจะแดงสดดังเดิม แต่ที่เป็นสีน้ำเงินก็จะออกแดง ช้ำๆ ดังรูป ดังนั้นก่อนพ่นสีแดงเราจึงควรพ่นสีขาวก่อนเสมอ เพื่อความสดของสี
ไฮไลท์นี่ แล้วแต่คนชอบนะ อย่าไปซีเรียส
พักแป็บ = =''
เหมือนยังขาดอะไรอยู่......... ก็มันยังไม่เสร็จนี่นา
ขั้นตอนต่อมาคืกการกั้นพ่น
ตอนแรกก็ตัดกระดาษกวามาเป็นชิ้นเล็กๆ ค่อยๆเอาไปติดชิ้นส่วนที่จะกั้น ถ้าเทปชิ้นใหญ่ไป ก็ตัดมาเป็นชิ้นเลกๆ ละเอียดๆ ค่อยๆติด
สมาธิ สำคัญที่สุด ใจเย็นๆ ค่อยๆทำ
ชิ้นมันใหญ่ เปลืองกระดาษ เอากระดาษขาวช่วยก็ได้ ประหยัดดี
พ่นเสร็จแล้ว
ต่อมาก็คือ กั้นพ่นสีที่เวอร์เนีย
ค่อยๆเอาเทปกาว แปะทีละด้าน ค่อยๆรีบไม่ต้องใจร้อน
เสร็จแล้วก็ทาสีม่วงเอา
เกือบเสร็จแล้ว
ทาสีนักบินให้เรียบร้อย
จากนั้นก็ทาเส้นสีดำด้วยสีสูตร เอนาเมล
สีสูตร เอนาเมล หรือ สีที่ใช้ น้ำมันสน ในการทำละลาย ที่ใช้สีนี้ทาก็เพราะ สีนี้จะไม่ไปกัดสีพื้น คือ สีสูตรทินเนอร์ของเรา
อันนี้คือ ตัวทำละลายของน้ำมันสน ในกรณีที่สีแห้งเกิน น้ำมันใฟแช็คเอาใว้เช็ดอย่างเดียว เอาไปผสมสีทาไม่ค่อยดี เพราะมันจะแห้งไว จึงเหมาะเอาไปเช็ดสีมากกว่า
ดังรูป คือ ถึงเอาน้ำมันไปแช็คไปเช็ดสี เอนาเมล สีที่เราพ่นด้วยทินเนอร์ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าสีที่เราทาเป็นสีทินเนอร์ เอาทินเนอร์ลบ สีก็ออกหมดเลย
ชิ้นใส ใช้สีเครียร์เขียวพ่นเอา
จากนั้นก็ทาสีขาว ตรงจอภาพห้องนักบิน
จากนั้นก็พ่นสีเครียร์เป็นอันจบ
เพิ่มเติม
รูป คลิบหนีบกระดาษ เอาไปจับชิ้นงานตอนพ่นสี เอามือจับพ่นคงลำบาก
ภาพ บูลแทค คือ คล้ายๆกับหมากฟรั่ง มีความเนียว เอาใว้จับยึดชิ้นงานได้หน่อยนึง เอาไปติดเวลาพ่นสีได้
กลับไปดูภาพ ตอนเพนน์ฟิกเกอร์ นักบิน อันนั้นแหล่ะ
จบแหล่ว อันนี้เป็นภาพที่ถ่ายเมื่อราวๆ 2-3ปีที่แล้ว ถ่ายคนเดียวเลยมีข้อจำกัด ถ่ายตอนกำลังทำไม่ได้ มือไม่พอ
ปัจจุบันไม่ค่อยได้ถ่ายเลย เพราะไม่มีกล้องเป็นของตนเอง :icon_twisted:
ถ้าขาดตกบกพร่องอะไรหรือผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้
