https://www.youtube.com/watch?v=y4l1lcqCBEc- การรีวิวนี้ เป็นแค่งานอดิเรกเท่านั้น อาจมีตกหล่น ลืมบอก ลืมเขียน ต่อผิด หลงๆลืมๆ บางจุดอาจมีใช้ความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่ละคนมือหนักไม่เท่ากัน ความรู้สึกและมุมมองแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทางที่ดีอย่าเชื่ออะไรมาก
- มีอะไรผิดพลาดท้วงติงหรือแก้ข้อมูลหรือเพิ่มข้อมูลจะเป็นพระคุณอย่างสูง
MS-06R-2 Johnny Ridden's Zaku II
RG 1/144
3000 Yen
แผงทั้งหมด
สติกเกอร์ใส กับสปริงที่ห่อในถุงสีเหลือง
สปริงจะใช้กับท่อพลังงานที่ขา
แผงต่างๆ คลิกเพื่อดูรูปใหญ่
แผงเฟรมโครงใน เป็นของ MS Joint 2 ของเก่าของ Zaku RG ปี 2010
แผงไจแอนต์บาซูก้า เป้นแผงใหม่
แผงอาวุธบาซูก้ากับฮีทฮอคของเก่าจากรุ่น 06 ปรกติ
แผงนี้ เป้นแผง ABS ที่เหลือพลาสติก PS หมดไม่นับโครงใน
อื่นๆ
อย่างที่เห็น คือแผงส่วนมากแหว่งเต็มไปหมด
เท่าที่เดา ก็น่าจะทำ MS-06R ตัวสีอื่นๆได้อีก
แผงอันเดอเกทบางส่วน แต่ไม่กี่จุดนะ หลักๆก็จุดที่บางหรือเหลี่ยมมุมจริงๆ เพื่อที่จะได้ตัดเกทง่ายขึ้น
ดีเทลบ้าง
รวมๆ ดีเทลจัดว่าดีตามประสา RG
เทียบแผง กองแรกเป็นแผงใหม่ กองสองเป็นแผงเก่า
ดังจะเห็นว่าแผงใหม่นั้นเยอะมาก หลักๆเกราะนอกส่วนขา บ่า นั้นทำใหม่หมด
ส่วนของเก่าส่วนมากจะเป็นโครงใน กับส่วนบอดี้
การต่อ คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ หลักๆไม่มีอะไรมากเพราะมันเป้นแบบโครงสำเร็จมาแปะเกราะเพิ่มเอาซะมากกว่า
บอดี้ มีกลไกคอกพิต บ่าเป็นแกนบาร์จุดขยับสองจังหวะ
เอวเป็นบอลจ็อยย์สองจังหวะ
จุดนี้ หลุดง่าย กาวได้กาวแปะไปเลยดีกว่า
แบคแพค ไม่มีอะไรมาก
แขน โครงในกึ่งสำเร็จอยู่แล้ว แค่แปะเกราะเอา
หลักการประกอบท่อ คือเอาแท่งสองไปในแกนท่อกลม แล้วหั่นเรียงรูดลงมา
พูดง่าย แต่ทำจริงมันแน่นมากตรงจุดโค้ง รูดให้สนิทชิดกันลำบากเอาเรื่องอยู่
ส่วนเอว
เท้า ปลายเท้าขยับได้จากโครงสำเร็จ
ขา ไม่มีอะไรมาก พิเศษหน่อยก็บูสเตอร์ตามขาของ R2
ตัวกระโปรงข้างกลไกเป็นแบบหใม่นะแทนที่แบบบแผ่นสำเร็จของ RG เก่า
คิดว่าของใหม่มุมขยับมันจะมากกว่านะ แต่ข้อล็อคมันหลุดง่ายไปหน่อย
ขา เตรียมย้อมทำร่าง R2 ต่อค่อนข้างแน่นอน แต่อาจจะพรีบันได ให้เดาก็R1 ของลุงชินมัตซินากะ
ส่วนของแผงไจแอนต์บาซูก้า เลนส์กล้องปืนไม่ใช่ชิ้นใสนะ
ต่อเป้นตัวบ้าง
หลักๆไม่มีอะไรมาก ตามฉบับ RG คือตัดโครงในกึ่งสำเร็จรูปมาต่อ แล้วแปะๆเกราะลงไป
เนื่องจากเป็นแผงโครงในเดิมของ RG Zaku II ปี 2010 กลไกต่างๆเลยเหมือนกันเด๊ะ
แต่ชิ้นเกราะแยกสีสลับกันเยอะมาก ทำให้ชิ้นส่วนเยอะกว่า MG Zaku 2.0 อีกมั้ง
แผงใหม่ราวๆ 6-70 % ส่วนมากก็ขาใหม่เกือบหมด บ่าแปละใหล่ก็ใหม่ บอดี้เดิม แขนเก่า นิ้วใหม่
เกราะเอวใช้กลไกแบบใหม่แทนที่ของเดิม ทำให้มุมขยับมากขึ้น แต่ชิ้นส่วนดันหลุดจากกันง่ายไปหน่อย
ภาพรวม ก็ตามฉบับ RG คือเน้นสวย สีสดสวยมาก ดีคอลเองก็ทำให้ตัวโมดูโดดเด่นขึ้น
ส่วนปัญหา หลักๆคือบอลจ็อยย์ที่แกนแขนหลวมมาก กับโครงสร้าง Zaku R2 ที่ส้นเท้าสั้นทำให้ล้มง่ายมาก
โดยเฉพาะเรื่องยืนยากนี่ จัดท่าไม่ดีจะล้มทง่ายมากเพราะตำแหน่งส้นเท้าหลังมันแคบมาก ส่วนตัวอยากถ่วงตะกั่วที่ขามาก
มุมต่างๆ
ซูมดีเทล
มุมต่างๆ
ส่วนหัวจริงๆตรงตามีสติกเกอร์ให้ แต่อย่าแปะาสวยกว่านะ
สติกเกอร์เงินแปะตามข้อพับ
สีขาวพาดเป็นสติกเกอร์
ท่อพลังงานส่วนขาจะเป็นสปริง
สติกเกอร์เป็นแบบปิดคลุมส่วนใหญ่ๆเอาเลย ตรงร่องวอชเลยดูมีบับเบิ้ลอยู่
ด้านหลัง
สีแดงที่หลัง เป็นสติกเกอร์
ไจแอนต์บาซูก้า
กริฟขยับได้เพื่อวางมุมบาซูก้า
ฝาเลนส์เปิดปิดได้
ของทั้งหมดในกล่อง
ชุดอาวุธ ส่วนมากมากับ RG zaku 2 เดิม มีบาซูก้าใหม่มาอีกกระบอก
จากซ้ายไปขวา คอนเนคเตอร์แขวนอาวุธที่บ่า ตัวเชื่อมก้นติดกับฐาน เขาแบบการ์ตูน และฟิกนักบิน 1/144
นิ้วแบบต่างๆ มีครบคู่ มีนิ้วแบ นิ้วกำ นิ้วจับอาวุธ และนิ้วแบบขยับข้อนิ้วได้
เวลาเปลี่ยนมือ ต้องถอดเปลี่ยนกำไรที่เป็นดีเทลปิดปลายแขนตลอด
เข้าใจว่าสมัยนั้นคงยังทำได้แค่นั้น เพราะตัวนี้โครงสร้างเดิมหมดทั้งตัว
จุดขยับมั่ง
แกนใหล่เอนมาด้านหน้าได้อย่างเยอะ เพื่อทำท่าจับปืนคู่
มุมยกใหล่ จะยกใหล่ขึ้นจนสุดต้องพับเกราะหลบก่อน
ตรงจุดนี้ HG ออริจินทำได้ดีกว่า หักใหล่เชิ่ดขึ้นได้โดยไม่ต้องพับเกราะบ่าหลบเพราะโครงสร้างจุดหมุนอยู่ลึกกว่า
เวลาหมุนหัว เลนส์ที่ตาจะหมุนตาม แต่ไม่มากนะ
คอกพิตเปิดได้
เอว แอ่นขึ้นลงได้นิดหน่อยด้วยกลไก บอลจ็อยย์สองจุด
มุมกางขา
มุมก้าวเดิน ได้เยอะเพราะกลไกปลายเท้า
มุมยกขา
แต่ยกมากๆ กระโปรงหน้าหลุดบ่อย
มุมงอเข่า เกราะต้นขาสไลด์ตามได้
บูสเตอร์ที่ขา ดีเทลดีมาก
แผ่นฟริบข้างขาก็ขยับขึ้นลงได้
บูสเตอร์ที่หลังก็ขยับขึ้นลงได้
ดีเทลสมจริงดีมาก
แผ่นฟริบที่หลังเองก็เอนได้เช่นกัน
กลไกรูติดฐาน รูติดฐานเป็นแบบรูสี่เหลี่ยม ซึ่งยุคนี้ไม่ค่อยได้เจอกันแล้ว
RG หลังๆจะให้ออฟชั่นรูกลม 3 มิลมาด้วย ซึ่งดีกว่า เพราะเอามาติดฐานทามาชี่ได้
กระโปรงข้าง จะเด้งหลุดง่ายถ้าแหกขาขยับแอคชั่นโพสมากๆนะ
สติกเกอร์หลายๆจุดเป็นแบบคลุมเป็นแผงใหญ่ๆเหมือนเดิม
ตรงบ่านี่ที่แขวนอาวุธที่โล่ระวังด้วยเพราะใส่ลึกไปจะชนดีคอลหลุดได้
ขวาน ติดที่แขวนแขวนใว้ตามตัวได้
ที่แขวนอาวุธที่บ่า ชิ้นส่วนแยก
แต่แบกแล้วหนักมาก จ็อยย์ใหล่ยกแขนไม่ใหว
ติดอาวุธครบ ยกแขนไม่ใหวเลย
ปัญหาอีกอย่างของตัวนี้คือ ส้นเท้าหลังสั้นมาก คืออยู่แทบจะจบเส้นศูนย์ถ่วงพอดี ทำให้ล้มง่ายมากๆถ้าจัดท่าไม่ดี
หลายๆท่าที่ผมแอคชั่น หลังฉากบางท่าล้มแล้วล้มอีกไม่ต่ำกว่า 3-5 ครั้ง น่าหาอะไรมาถ่วงเท้ามากๆ
แอคชั่นมั่ง กับอาวุธประจำตัว ไจแอนต์บาซูก้า
กริฟปืนขยับได้ ทำให้แอคชั่นได้ดีไม่เกะกะ
ถือสองมือได้ดีเพราะแกนใหล่ออกแบบมาให้เอนไปด้านหน้าได้เยอะมาก
ขวาน จริงๆจับได้แค่แขนขวา เพราะเดือยล็อคมือมีแค่ซีกเดียว
ถือแถๆเอาได้อยู่
ส่วนอาวุธอื่น แกนล็อคอาวุธจะหมุนไปมาซ้ายขวาได้ทำให้ถือได้สองมือ
แซ็คมาชีนกัน
บาซูก้าบ้องข้าวหลาม
อาวุธเยอะ มิกซ์กันได้อยู่
ติดฐานแอคชั่นยาว
Review :
- หลักๆ ย้อม RG Zaku 2 xu 2010
- แผงใหม่ราวๆ 6-70 % ส่วนมาำจะเป้นขา แหละเกราะนอก
- แผงอาวุธเก่าครบ มีอแผงอาวุธใหม่ ไจแอนต์บาซูก้า
- โครงในเดิมของ RG Zaku เดิม
- โครงสร้างที่แก้ จะมีแค่ที่แขวนกระโปรงข้าง ที่ทำใหม่ใช้จุดขยับสองจังหวะ ทำให้ขยับทำมุมได้ดีกว่าของเก่า
- สีพลาสติกเป็นสีแดงสดตัดกับแดงอ่อน
- แผง ABS เก่ายังอยู่
- แผงแหว่งแทบทุกแผง น่าจะย้อมได้อีกเยอะมาก ลุงมัตซึนากะนี่น่าจะต่อคิวอยู่
- แผงเยอะมาก ชิ้นส่วนเยอะมาก และชิ้นเล็กๆเยอะมากกกก หลักๆผมว่าต่อเหนื่อยกว่า MG 2.0 อีนะเออ
- ต่อเหนื่อยชิ้นส่วนเยอะเพราะแยกสีซะมาก แต่โครงสร้างหลักๆไม่มีอะไรมากเพราะเป้นโครงในกึ่งสำเร็จมาอยู่แล้ว
- สติกเกอร์ใสกันดั้มดีคอล หลายจุดเป็นแบบแปะครอบคลุมไปเป็นจุดใหณ่ๆเหมือนเดิม ทำใจซะ ถ้าสายทำสีก็รอดีคอลน้ำกันไป
- จุดขยับ ถือว่าดีในปี 2010 หลักๆที่ยุคใหม่ดีกว่าก็น่าจะเอวน่ะนะ
- หัว ตาหมุนตามซ้ายขวาได้เวลาหมุนหัว เหมือน MG 2.0
- เอวเป็นดับเบิ้ลบอลจ็อยย์ ซึ่งสำหรับยุคนี้จะใช้แกนบาร์ซะมากกว่า มุมก้มเงยเลยไม่มากเท่าพวก Gundam Evo project
- ใหล่ยกไม่ได้ แต่เอนมาด้านหน้าได้เยอะมาก ด้วยกลไกแกนบาร์สไลด์ จุดประสงค์หลักของจุดนี้คือเพื่อจับปืนสองมือได้
- ศอกสองจังหวะ
- จุดขยับกางแขน เกราะบ่าจะชน ต้องขยับหลบ จุดนี้ HG Origin จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
- ส่วนขาโอเคดีหมด ยกเว้นมุมงอเข่า ที่ทำได้แค่ 90 องศา เพราะใช้โครงสร้างของ Zaku เดิมเลยติดเกราะ
- ให้ที่แขวนปืนที่บ่ามาด้วย แต่ติดแล้วขรูดดีคอลตัวเองหลุดทันที
- นิ้วให้มาครบทุกแบบ มือแบ กำ จับอาวุธ และนิ้วแบบขยับได้หน่อยนึง
- ที่ติดฐานเป็นแบบรูสี่เหลี่ยมคลาสสิค... คอนเนคเตอหายากโคดๆ
- กลไกถือปืนใช้สลักล็อคกับมือหมด มีมาชีนกันกับบ้องข้าวหลาม แกนล็อคหมุนไปซ้ายขวาได้ทำให้ถือได้ทุกมือ แต่ขวานกับไจแอนต์บาซูก้าล็อคตาย ถือได้แค่มือขวา
- แผ่นฟริบตามตัว กับบูสเตอร์ ขยับได้หมด
- ไม่มีรอยผ่ากลาง แม้แต่อาวุธ
- แต่ไจแอนต์บาซูก้า เลนส์ปืนไม่ใช่ชิ้นใส
- จุดอ่อนใหญ่สุดของตัวนี้คือยืนยากมาก เพราะส้นเท้าแคบไป ประกอบกับ R2 บูสเตอร์หลังขาจะเยอะ ทำให้ถ่วงล้มได้ง่ายๆ
- มุมกางแขนใช้บอลจ็อยย์กลมบนยางเบ้ารับธรรมดา ทำให้หลวมไปหน่อยในจุดนี้
- อาวุธแขวนตามตัวยังได้อยู่ ยกเว้บบาซูก้าแขวนที่หลังไม่ได้แล้วเพราะบูสเตอร์บังส่วนนี้หมด
- ขยับกางขา ยกขามากๆ กระโปรงหน้ากับกระโปรงข้างจะเด้งหลุดบ่อย
- ไจแอนต์บาซุก้า กริฟทำมาดีมาก เอนรับกับข้อมือได้ดี MG นี่ขยับไม่ได้เลย
- ต่อดิบก็ยังสวย เพราะสติกเกอร์ในกล่อง สีพลาสติกเองก็สดดีด้วย ส่วนสายทำสีอาจจะลำบากหาดีคอลมาใช้นี่แหล่ะ
- ตรงท่อพลังงาน บางทีจะดูมีช่องว่างหรือสายมันยาวไปในส่วนขา หลักๆขริงๆเพราะสปริงยัดเข้าแกนยากไป ถ้ายัดจนสุดจะพอดีนะ แต่ระวังหักด้วยเกราะแกนล็อคสปริงบางมาก
Q&A SEC
จอห์นนี่ไรเดน เป็นนักบินในสังกัดของ คิซิเรีย ซาบี้ ที่สร้างชื่อเสียงจากสมรภูมิ รูม โดยถูกเรียกว่าเป็นคู่แข่งของชาร์ เนื่องจากความสามารถ จึงได้รับสีเฉพาะตัว และฉายา Crimson lighting (แต่ต่อมาโดนแก้เป็น Red Blith) โดยบังคับ MS-06R-2 หุ่นคู่ใจออกรบ โดยตัวหุ่นจะมีลาย "ยูนิคอร์น" ที่ศอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยคิซิเรีย และ โมเดลของบันไดจะมีลาย RB ที่ย่อมาจาก Red Blitz (แต่ในโมเดลตัวนี้ผมไม่ติดทั้ง 2 อัน เพราะเป็นสติกเกอร์ใสหนามาก.....)
โดยสงครามสุดท้ายคือ สมรภูมิ อะบาวอาคู ที่มาพร้อมกับ เกลกุ็ก ไฮโมบิลิตี้ และสู้เพื่อปกป้องคิซิเรีย เหมือนสัญลักษณ์ ยูนิคอร์น และหลังสงครามถูกระบุว่า Missing in action โดยสถิติถูกระบุว่า เขาทำลายศัตรูไปทั้งหมด 185 ยูนิตโดยรวม
อนึ่ง ใน Gundam Evolve 9 ซึ่งเป็น "IF" Zeta red snake จริงๆเขาสร้างมาให้ไรเดนขับ ถ้าเขารอดจากสงคราม แต่เจ้าตัวไม่มา เลยได้นักบินคนใหม่แทน
ในคอมมิค MSV-R Return of Johnny ridden จะเผย(?) ความจริงว่าจริงๆแล้ว เขาเป็นสมาชิกหน่อยรบ คิเมร่า ซึ่งขึ้นตรงกับคิซิเรียกุมความลับอะไรบางอย่างอยู่
แต่ดูเหมือนจบสงครามไปแล้ว จอนนี่ไรเดนได้หายตัวไป ความจำเสื่อมเนื่องจากการขาดอ็อกซิเจน กลายเป็น Led Wayline นักบินทดสอบของสังกัด Federation Survey Service ซึ่งเป็นหน่วยเก็บข้อมูลของ MS ที่ใช้ในส่วงสงครามหนึ่งปี
คอมมิคยังไม่จบ ส่วนบ้านเราก็ยังดองลืมอยู่
Positive :
1. สีพลาสติกสวยมาก คือแดงแบบแดงสดจริงๆ สีสว่างไม่ใช่ทึบๆแบบชาร์แซ็ค
2. ให้นิ้วมาครบทุกแบบ ครบทุกคู่
3. อาวุธเยอะมาก ถือกันไม่หวั่นไม่ใหว
4. จุดขยับภาพรวมค่อนข้างดี ใหล่เอนมาด้านหน้าได้เยอะ ข้อเท้าถือว่าดี เอวแอ่นไม่ได้มากแต่เอนได้โอเคดี ศอกมาตรฐาน มีเข่างอได้แค่ 90 องศา แต่ก็ไม่ได้อะไรมากนัก
5. มีลูกเล่น เช่นคอกพิต หรือตาหมุนได้ บูสเตอร์ขยับได้
6. ต่อดิบแล้วยังสวย หลายๆอย่างมันเอื้อมาทางนี้อยู่แล้ว เหมือนทำมาเพื่อสายต่อดิบมากกว่าสายทำสี เพราะสติกเกอร์แผ่นบะเริ่ม
7. ไม่มีรอยผ่ากลางเลย แม้แต่อาวุธ
8. ดีเทลถือว่าเยอะ ตามชื่อเกรด Real grade
9. ข้อต่อค่อนข้างแน่นดีทุกจุด ยกเว้นใหล่.....
Negative :
1. ศูนย์ถ่วงมีปัญหามาก จัดท่าไม่ดีล้มง่ายมากเพราะส้นเท้าสั้นไป เป้นคำสาปหุ่นรุ่น R2 แทบทุกเกรด แต่จุดนี้ MG ยังยืนได้ดีกว่าเลยเพราะดีไซน์ RG ออกแบบมาเท้าเล็กอยู่แล้วด้วย
2. ข้อใหล่มุมกางใหล่ หลวมไปหน่อย เพราะใช้บอลจ็อยย์ยางแบบง่ายๆเลย ถ้าติดอาวุธที่บ่านี่ ใหล่ตกได้ง่ายๆ
3. กระโปรงหน้า และกระโปรงข้างเด้งหลุดง่าย ถ้าขยับกางขาทำมุมเยอะๆ
Fair :
1. เลนส์ปืน ไจแอนต์บาซูก้า ไม่ใช่ชิ้นใส
2. ที่ติดฐานเป็นแบบแยกชิ้น แต่ติดคาก็ได้ดูไม่ออกหรอก
3. แกนรูติดฐานเป็นแบบบล็อคสี่เหลี่ยม
4. กั้นพ่น มีจุดเดียว คือสีแดงที่หลัง ในกล่องเป้นสติกเกอร์
5. สติกเกอร์ใสเป็นแบบคลุม แผ่นบะเริ่ม ไม่เนียนแน่นอน จะหั่นชิดขอบยังยากเลยเพราะบางจุดเป็นเหม็ดหมุดกลมๆ
6. ฮีทฮอค รูล็อคกับมือ จับได้แค่แขนขวา
7. ต่อเหนื่อยนะ บอกเลย ชิ้นส่วนไม่แพ้ MG เลยเพราะแยกสีสลับกันเยอะมาก ใครคิดว่า 1/144 จะต่อชิวๆแก้เซ็งบอกเลยว่าไม่ ชิ้นส่วนเล็กๆเยอะด้วย ระวังหายล่ะ
เทียบไซส์กับ HG
มีหลายจุดที่ผมว่า HG Origin ทำดีกว่านะ
หลักๆ ผมชอบสัดส่วน HG Origin มากกว่านะ น่องโตดีสัดส่วนเหมือนมนุษย์ สีโทนโมโนโทนดูแล้วดูดุกว่า ดีเทลก็ถือว่าไม่เลว จะติดก็ตรงตานี่แหล่ะ ส่วนท่อพลังงานผมให้ผ่านนะ ของ RG นี่ขัดรอยต่อกันระทม
จุดขยับ HG Origin ดีกว่าหน่อยนึงนะ เอวแอ่นได้ดีกว่า ใหล่เอนได้พอๆกัน ใหล่กางได้ดีกว่า ข้อเท้าพอๆกัน กระโปรงออริจินดีกว่า
ส่วน RG มาแนวต่อดิบ สีสวยสด ข้อต่อส่วนมากแน่นแข็งแรงกว่าเพราะใช้โครงใน ABS (ยกเว้นใหล่บอลจ็อยย์ อันนี้แย่กว่าHGอีก)
ถ้าเน้นขยับเล่นผมว่า HG Origin ตอบโจทย์ได้ดีกว่านะ เพราะออกทีหลัง เทคโนโลยีจะดีกว่าหน่อย
ส่วน RG นี่แหมาะกับสายต่อดิบจริงๆเพราะสีพลาสติกสด รอยผ่ากลางหลบหมด
สุดท้ายผมคงต้องรอเก็บ Ver.Origin อีกตัว ถ้าไม่ใช่พรีบันไดนะ
ส่วนเท้าของออริจินก็ใหญ่กว่า แบบ R2 ของออริจินน่าจะยืนได้ดีกว่า
ส่วนของ RG เท้าจะเล็กกว่า แถมตำแหน่งศูนย์ถ่วงอยู่ด้านหลังมากเกินไปด้วย
กับ MG ยอมรับนะว่าดีกว่า MG เยอะอยู่ สัดส่วนดีกว่า ดีเทลดีกว่า จุดขยับดีกว่า ที่สำคัญ ไจแอนต์บาซูก้าแอ่นกริฟได้ด้วย
รวมๆก็ตามฉบับ RG เน้นสวย ดีคอลเต็มตัว คู่เฉดสีตัดกับดีเทลและสัดส่วนออกแนวเพรียวๆดูยังกะรถสปอร์ต
แต่โครงสร้างมันเป็นของ RG ZakuII ปี 2010 เด๊ะ หลักๆก็เหมือนเดิมหมด มีแก้แค่กระโปรงข้างแค่นั้น
ถ้ามี RG Zaku 2 อยู่แล้วคงตัดสินใจง่ายหน่อย แต่ตัวนี้ผมว่าปัญหาใหม่น่าจะเรื่องล้มง่าย เพราะโครงสร้าง R2 มันถ่วงหนักหลังอยู่แล้วด้วย
เรื่องยืนยากนี่ น่าหาอะไรมาถ่วงเท้าเหมือนกัน ไม่งั้นถ้ายืนตั้งระยะยาวคงต้องไปหา UHU tag แปะใต้เท้าช่วยด้วย
ต่อดิบสวยตามประสา RG แยกชิ้นดีไม่มีผ่ากลาง โครงสร้างเก่าไปหน่อยแต่ยังใช้ได้ดีอยู่ หลักๆก็เน้นสวยจริงๆแหล่ะ แต่ถ้าถามผม ผมว่า HG Origin จับแอคชั่นกับขยับเล่นได้ดีกว่านะ
หลักๆก็เหมาะกับสายต่อดิบแหล่ะ ไม่มีรอยผ่ากลาง ของออริจินนี่รอยผ่ากลางที่แขนโชว์เด่นมากเลย
ชอบแบบใหนก็ซื้อแบบนั้นแหล่ะ..... แต่ MG นี่อยากให้ออก MG Origin Ver. มามั่งซะทีเหมือนกัน.......
https://www.youtube.com/watch?v=Q0KrJ8EYzBI
