ผู้เขียน หัวข้อ: บทความพี่ BIG TG กับ Gunpla ที่หายากที่สุด  (อ่าน 11206 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ moobest

  • TG STAFF
  • ฝึกพ่นสีกระป๋อง
  • *
  • กระทู้: 343
  • Like: 22
  • http://ibest.rmutp.ac.th/
    • ibest
บทความพี่ BIG TG กับ Gunpla ที่หายากที่สุด
« เมื่อ: กันยายน 28, 2017, 06:18:17 PM »
สวัสดีครับวันนี้ขอนำเสนอบทความของพี่ BIG TG ที่ได้เล่าประวัติศาสตร์ Gundam/GunPla เมืองไทย, เล่าเรื่องงานประกวดที่ทำให้ได้มาซึ่ง Gundam ที่หายากที่สุดในโลก ที่ได้โพสลงใน Pantip มาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านและชมกัน เผื่อจะเป็นแรงบรรดาลใจให้ใครหลายๆ คนทำโมส่งประกวดครับ

ต่อจากนี้จะเป็นบทความของพี่ BIG TG ครับ


ก่อนอื่นเลยต้องขอออกตัวไว้ก่อนครับ ว่าเนื้อหาทั้งหมดเป็นการเล่าเรื่องจากความทรงจำส่วนตัวในฐานะที่เคยสนใจ GunPla มาในอดีต และรวบรวมจากการได้พูดคุยกับพี่ๆท่านผู้อาวุโสที่อยู่ร่วมวงการในสมัยนั้น ดังนั้นข้อมูลบางอย่างหากผิดพลาดประการใด ขออภัยและน้อมรับนำมาแก้ไขปรับปรุงครับ

ประวัติศาสตร์ของกันดั้มนั้น เริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ.1979 เมื่อบริษัท ซันไรซ์ ประเทศญี่ปุ่น ได้ผลิตซีรีย์อนิเมชั่น “โมบิลสูท กันดั้ม” ออกฉายที่ญี่ปุ่นครั้งแรก (ฉายจริงปี 1980) โดยมีหุ่นตัวเอกในเรื่องคือ RX78-2  ซึ่งก็คือ Gundam เฉยๆนี่แหละ เราจะคุ้นเคยเรียกภาคนี้ว่ากันดั้มภาคแรก ไม่นานนักในเดือน กรกฎาคม ปี 1980 บริษัท Bandai ก็ได้ผลิต GunPla ตัวแรกออกจำหน่ายเช่นเดียวกัน

กล่องนี้เลยครับ GunPla ตัวแรกที่ผู้ผลิตมาเพื่อจำหน่ายในปี ค.ศ.1980 เป็นสเกลขนาด 1/144 ชิ้นส่วนประกอบแบบง่ายๆไม่แยกสี ราคาเพียง 300เยน ใครมีก็เก็บไว้นะครับ



แต่ก็ต้องรอจนถึงปี ค.ศ.1981 ประเทศไทยเราถึงจะได้ดูกันทางทีวี ที่ทางช่อง 7สี ทีวีเพื่อคุณ นำมาออกอากาศฉาย ในชื่อ “อภินิหารกันดั้ม”

เมื่อมีการ์ตูนฉายทางทีวี แน่นอนก็ต้องมีของเล่นตามเข้ามาขายด้วย โดยหลังจากที่ช่อง 7 เอากันดั้มมาฉายได้ไม่นาน บริษัท ก.เจริญ ก็นำเข้า ของเล่นกันดั้ม ที่ผลิตโดยบริษัท Bandai ประเทศญี่ปุ่น เข้ามาขายในไทยเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าก็จะเป็นเด็กๆ (ซึ่งก็คือเราในสมัยนั้นนั่นแหละ) ขายเป็น พลาสติกโมเดลคิท แบบง่ายๆ และของเล่นแบบต่างๆ แต่ ก.เจริญ ผู้นำเข้าของเล่นจากญี่ปุ่นมาขายรายใหญ่ในสมัยนั้นก็นำเข้าของเล่นหลายอย่าง กันดั้มก็เป็นแค่ไลน์เล็กๆไลน์หนึ่ง ซึ่งไม่ได้ขายดีอะไรนัก

แต่ซีรีย์กันดั้มในญี่ปุ่นไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น หลังจากกันดั้มภาคแรกประสบความสำเร็จ ก็มีการสร้างภาคต่อ และภาคใหม่ๆขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันมีมากกว่า 30 ภาค

มีภาคอะไรบ้างเข้าไปดูได้ใน Wilipedia เลยครับ
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%A1

เมื่อซีรีย์ดัง ของเล่นก็มีการพัฒนา จากโมเดลคิทแบบง่ายๆ ก็พัฒนาจุดขยับ ข้อต่อต่างๆซับซ้อนมากขึ้น พลาสติกมีการฉีดแยกสีมาให้ในแผงต่างๆดีขึ้น  โมเดลคิดกันดั้ม หรือ GunPla (Gundam Plastic Model Kits) จึงน่าสนใจและดึงดูดกลุ่มคนที่มีอายุมากขึ้นเช่นกัน และมันก็เริ่มที่จะไม่ใช่เป็นเพียงแค่ของเล่นเด็กเท่านั้นแล้ว

ปี ค.ศ. 1990 Bandai ได้พัฒนาGunPla ให้ดีขึ้น มีจุดขยับ มีรายละเอียดมากขึ้น ใช้ชื่อซีรียร์ High Grade (HG) แฟนๆชาวไทยสมัยนั้นก็เริ่มขยายวง มีความต้องการมากขึ้น ทำให้ร้านของเล่นหลายๆร้านแถวสะพานเหล็กในสมัยนั้น นำเข้ามาจำหน่ายเองเลย ที่เค้าเรียกว่า “หิ้ว” เข้ามาขายกัน บางกล่องมีราคาแพงหลักพันก็มีคนซื้อ



HG กล่องแรก ตัวนี้เลย วางจำหน่ายในญี่ปุ่น เดือนมีนาคม ปี1990 ราคา 1000เยน จุดเด่นๆเลยคือ มันมียาน Core fighter แปลงร่างแยกมาจากตัวหุ่นได้ด้วย เรียกว่า โคตรเจ๋ง ในยุคนั้น



ปี ค.ศ. 1995 Bandai พัฒนาขึ้นไปอีกโดยการออกซีรีย์ Master Grade (MG) ซึ่งมีโครงสร้างภายใน มีจุดขยับ แผงพลาสติกมีการฉีดแยกสีมาให้ เรียกว่าสุดยอดมากๆ ทำให้คนไทยที่ชอบทำโมเดลหันมามอง GunPla มากขึ้น



MG ตัวแรก วางจำหน่ายในญึ่ปุ่น เดือน กรกฎาคม ปี 1995 ราคา 2,500เยน ความสุดยอดของ MG ในยุคนั้นมันน่าตื่นเต้นขนาดไหนคงไม่ต้องบอกครับ



และเมื่อความต้องการมากขึ้น ทำให้ บริษัท อื่นๆในประเทศไทย เริ่มนำเข้ามาขายบ้างอย่าง บริษัท ไมโครน๊อท และ BKC จนในที่สุดก็มาเป็น บริษัท ดรีมทอย เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการจาก บริษัท Bandai ประเทศญี่ปุ่นให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ากันดั้มของบันได จนมาถึงทุกวันนี้

ลิสลำดับGunPlaครับ
http://gundam.wikia.com/wiki/List_of_Gundam_Models_since_1980

มาเรื่องงานประกวดกันบ้าง

ในสมัยก่อน โมเดลเลอร์ชาวไทยส่วนใหญ่นิยมเล่น สเกลโมเดล หรือโมเดลแบบจำลอง จากพวก รถ รถถัง เครื่องบิน แนวมิลิทารี่ เหล่านี้อยู่ก่อนมานมนานแล้ว จนเริ่มมีโมเดลคิทกันดั้มเข้ามา ก็เริ่มมีคนสนใจที่จะเอา GunPla มาบิ้วบ้าง เริ่มจากทำสี ดัดแปลงโมดิพายด์งานต่างๆ แต่ก็อยู่ในวงแคบๆ และไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไหร่

งานประกวดต่างๆ ในสมัยแรกๆก็จะเป็นในลักษณะ งานประกวดโมเดลที่จัดโดยนิตยสารโมเดล, ร้านค้า, บ.ที่นำเข้ามาจำหน่าย โดยเน้นสเกลโมเดลเป็นหลัก มีงานโมเดลจากอนิเมพวกกันดั้มบ้างก็เป็นส่วนเล็กๆในงาน แต่เสน่ห์ดึงดูดของ GunPla ที่เราสามารถจับมันมาทำสี หรือทำอะไรก็ได้ตามจินตนาการเรา ไม่มีรูปแบบตายตัว ก็เริ่มดึงดูดคนมาสนใจเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่นิตยสารเกี่ยวกับโมเดล จะเน้นสเกลโมเดล ก็เริ่มมีนิตยสารที่เน้น โมเดลจากอนิเมชั่นอย่างกันดั้มมากขึ้น เช่น A Club และ Mast (ใครเคยอ่านบ้างยกมือขึ้น) งานประกวดก็เริ่มมีมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นการจัดเฉพาะกลุ่มเล็กๆ



Mast เล่มแรกใครเคยอ่านบ้างครับ



ภาพจาก บก.อึ่ง ในเพจ MS09 ครับhttps://www.facebook.com/Tatkmol/

จนมาถึงยุค 2000 อินเตอร์เนทเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น ยุคนั้นเรียกได้ว่าเป็นยุคเว็บบอร์ด คนที่มีความสนใจเรื่องเดียวกันก็จะเริ่มเข้ามาตั้งกระทู้สนทนากันในเวปบอร์ดต่างๆมากขึ้น กันดั้มก็เช่นเดียวกัน แต่ก็กระจายๆตัวกันไปตามบอร์ดต่างๆ จนในที่สุดมีบุคคลหนึ่งที่นับว่ามีคุณูปการกับวงการกันดั้มเมืองไทยเป็นอย่างมาก นั่นคือพี่ BOY TG ซึ่งชื่นชอบโมเดลคิทกันดั้ม และพี่บอยเองเป็นนักบิน ได้มีโอกาสไปประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้ง (ตอนนั้นประเทศญี่ปุ่นยังไม่ free visa เหมือนสมัยนี้ การจะไปญี่ปุ่นเป็นเรื่องยากพอสมควรเลยทีเดียว) ได้เห็นว่าญี่ปุ่นมีโมใหม่ๆ งานสวยๆที่บ้านเราไม่เคยเห็น หนังสือ Hobby Japan ที่หาซื้อไม่ง่ายในบ้านเราและก็มีราคาแพง ก็อยากถ่ายรูป อยาก Scan มาแชร์ให้น้องๆที่เมืองไทยได้ดูกัน จึงก่อตั้ง เวปไซด์ www.thaigundam.com ขึ้นในวันที่ 1 มีนาคม 2001 ทำให้ไทยกันดั้ม เป็นที่รวม ที่สิงสถิตย์ ของพวกเราเหล่าคนที่ชื่อชอบกันดั้มในยุคเริ่มแรก เมื่อมีการรวมตัว จำนวนสมาชิกก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละคนก็สรรหาเทคนิคต่างๆมาแชร์ มาสอนกัน ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มี Google ไม่มี Facebook การจะหาข้อมูลต่างๆ พวกวิธี เทคนิคการพ่นสี การโมดิพายด์ ต่างๆนั้นยากเย็นมาก ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่พี่บอย จะ scan หนังสือ Hobby japan มาลงให้ดูสักที



ถ้าจำไม่ผิด ช่วงปี 2002 มีงานใหญ่ในวงการของเล่นงานหนึ่ง ชื่องาน Toy Fest เป็นการรวมของเล่นแทบทุกประเภท หลากหลายบริษัท มาร่วมกันจัดงานเต็มพื้นที่สวนลุม Gundam ก็เป็นเต้นท์เล็กๆ เต้นท์หนึ่งในงาน แต่สำคัญที่มันมีการประกวดGunPla ด้วย งานนี้แหละเป็นงานแรกที่ผมส่งผลงานเข้าประกวดกับเค้าด้วย โดยอาศัยความรู้ที่ได้มาจากเวปไทยกันดั้ม ที่นั่งคุยนั่งตั้งกระทู้ตอบกระทู้อยู่คนเดียวไม่เคยเจอใครเลย หาวิธีพ่นสี ไปขอยืมแอร์บรัชเพื่อนมาพ่น หมายมั่นปั้นมือว่าทำเต็มที่ยังไงต้องได้รางวัลกลับมาบ้านสักรางวัล แต่พอไปถึงงาน ได้เปิดหูเปิดตา เห็นงานที่พี่ๆ เพื่อนๆส่งเข้าประกวด ถึงกับตะลึง มันทำยังงี้ได้เลยเหรอ เค้าทำกันยังไงเนี่ย คำถามสารพัดมากมากเกิดขึ้นในหัว และผลสรุปก็เป็นไปตามคาด ตกรอบ ไม่ได้รางวัลอะไรเลย แอบเสียใจเล็กๆ แต่ยอมรับโดยไม่มีข้อกังขา ผลงานอื่นๆที่ส่งประกวดมันสุดยอดจริงๆ และตั้งใจไว้เลยกับตัวเองตอนนั้นว่า สักวันต้องทำให้ได้แบบนั้นบ้าง

งาน Toy Fest นี่แหละทำให้ผมได้รู้จักกับพี่น้องGundam ของผมตั้งแต่ตอนนั้น บางคนที่เป็นเทพๆ ในวงการตอนนี้ ตอนนั้นก็ตกรอบพร้อมผมเหมือนกัน 55 ทุกคนที่ผมได้เจอตัวเป็นๆตอนนั้นทำให้ผมประทับใจมาก มันเป็นสังคมของการแบ่งปันอย่างแท้จริง สอนทุกอย่าง อยากรู้อะไรขอให้ถาม นั่งดูโมที่ส่งเข้าประกวด โมที่ได้รางวัลไป คุยกันไปทั้งวัน จนเย็นๆจะกลับบ้านแล้ว ผมได้เจอ พี่ BOY TG ผู้ก่อตั้งเวปไทยกันดั้มตัวเป็นๆ ได้ทักได้เจอกันครั้งแรก มีแต่คนลุมร้อม ผมก็แทบไม่มีโอกาสเข้าไปคุย แต่พี่บอยใจดีมาก เป็นกันเองทุกคน พอดีกับแกเอ่ยๆปากว่าขาดคนช่วยทำเวป ผมก็เลยเสนอตัวช่วยพี่บอยทำ ทำไปทำผม ผมกลายเป็น Admin เวปไทยกันดั้มซะงั้น และเป็นที่มาของชื่อ BIG TG (เอานามสกุลนี้เลย)

หลังงาน Toy Fest ได้ไม่นาน ทางดรีมทอย ก็ประกาศว่าจะจัดงานใหญ่ งานนี้เป็นงานแรกที่ บริษัท Bandai จากประเทศญี่ปุ่นจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วยตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นการประกวดGunPla อย่างเป็นทางการจากBandai งานแรกในประเทศไทย เพื่อค้นหาแชมป์ของแต่ละประเทศ ไปแข่งกันต่อรอบ Final กับแชมป์ของประเทศอื่นๆในทวีปเอเชียที่ประเทศฮ่องกง ชื่องาน Bandai Action Kits “Asia Cup” 2003 ซึ่งก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ บ.Bandai จัดให้มีการแข่งขันในระดับ International ผู้ชนะของแต่ละประเทศก็จะได้ตั๋วเครื่องบินพร้อมผู้ติดตามเดินทางไปแข่งต่อที่ฮ่องกง และถ้าไปชนะรอบ Final ที่ฮ่องกงอีก จะได้รับเชิญไปชม บ.Bandai ในส่วนที่ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมที่ญี่ปุ่น โมของผู้ชนะก็จะได้รับเกียรติไปโชว์ที่ Bandai Museum เป็นเวลา 1 ปี โอ้ว...ตอนนั้นมันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก ใหญ่จนเกินเอื้อมแน่ๆสำหรับผมที่เพิ่งจะเปิดหูเปิดตาเป็นครั้งแรกใน Toy Fest มาหมาดๆ

หลังจากได้ข่าวปุ๊บจำได้ว่ามีเวลาทำงานอีกหลายเดือนกว่าจะถึงกำหนดส่งงานเข้าประกวดรอบประเทศไทย ผมก็ค่อยๆหาไอเดียอะไรที่แปลกๆใหม่ๆ ยังไม่มีใครทำสมัยนั้น อยากทำอย่างนี้แหละ เป็นซามูไร เพราะงานชื่อ Asia Cup และเป็นงานแรกด้วย เดาว่ากรรมการคงต้องอยากได้อะไรที่บ่งบอกว่าเป็นเอเชียๆ คิดได้แล้วว่าจะทำแบบนี้ แต่จะทำยังไงล่ะ เพราะทำไม่เป็นสักอย่าง ผมจึงเริ่มหาข้อมูลวิธี เทคนิคการทำในส่วนต่างๆมาลองทำ ทำผิดก็ทำใหม่ไปเรื่อย ก็ได้พี่ๆเพื่อนๆในเวปไทยกันดั้มคอยแนะนำนี่แหละ ผมเป็นมือใหม่มากๆตอนนั้น ทุกอย่างที่ทำเป็นการลองทำครั้งแรก โยนชิ้นที่เสียทิ้งไม่รู้กี่ชิ้นต่อกี่ชิ้น งานง่ายๆที่คนเก่งๆทำไม่กี่นาที ผมทำมันหลายวัน แต่ก็ค่อยๆทำ ข้อดีของการประกวดGunPla มันอยู่ตรงนี้แหละ เพราะเรามีเวลาทำผลงานได้ไม่จำกัด มือใหม่อย่างผมเลยมีเวลาลองผิดลองถูก ค่อยๆทุ่มเททำไป ทำทุกวันเป็นเวลาหลายเดือน งานก็เสร็จทันส่งประกวด



โชคดีอีกอย่างของผมก็คือ ในงาน Asia Cup 2003 เป็นปีแรกที่มีการจัดงานใหญ่แบบนี้ ข้อผิดพลาดของการจัดงานมันเลยเยอะ ข้อผิดพลาดที่สำคัญมากๆก็คือ ผู้จัดของประเทศไทยเรา แบ่งรุ่นการแข่งขันออกเป็น 2 รุ่น คือ 1. รุ่น Open หรือรุ่นมืออาชีพ กับ 2. รุ่นมือใหม่หรือมือสมัครเล่น แต่ทั้ง 2 รุ่น คนได้ที่ 1 ก็จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งต่อที่ฮ่องกงเช่นเดียวกัน ผมก็ลงรุ่นสมัครเล่นสิ เพราะผมเพิ่งเคยส่งผลงานเข้าประกวดที่ Toy Fest มาครั้งเดียว และก็ไม่เคยได้รางวัล ผลออกมาก็เลยได้รางวัล ที่ 1 รุ่นมือสมัครเล่น เป็นตัวแทนประเทศไทย ได้ไปฮ่องกงสมใจ แถมได้พาแม่เดินทางไปด้วยอีกคน (ซึ่งแม่ผมนั่งบนนอนบ่นมาตลอดว่าทำอะไรกันดั้ม ไร้สาระ อย่าหมกมุ่น พอได้รางวัลได้พาแม่ไปด้วยเลยรู้สึกแบบ ชนะแม่นิดๆ)

ตัดมาตอนไปถึงฮ่องกง ผมเหมือนกบที่เพิ่งจะออกมาดูโลกภายนอก งานมันยิ่งใหญ่มาก ไม่เคยเห็นงานกันดั้มที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แต่ตื่นตาตื่นใจไม่นานก็ต้องแอบเซ็งด้วยข่าวที่ ผู้จัดชาวญี่ปุ่นมาบอกว่า รอบ Final นี่เค้าไม่มีรุ่นมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่นนะ เค้ามีแต่รุ่น Open ดังนั้นเค้าจะจับรวมโมทุกตัวไปตัดสินรุ่นเดียวกันหมด ผมก็ได้แต่ยอมรับและเซ็งๆนิดนึง เพราะงานทุกชิ้นที่เป็นตัวแทนของแต่ละประเทศที่เข้าประกวด เรียกได้ว่าสุดยอดมากๆ งานโมดิฟายด์ยากๆทั้งนั้น ถ้ามาเทียบกับงานของผมซึ่งเป็นการโมดิฟายด์แบบง่ายๆ ไม่ได้ทำยากเย็นอะไร ความหวังที่จะได้รางวัลสักรางวัลติดมือกลับบ้านคงยากเต็มที แต่ staff ของประเทศไทยเราก็เตรียมการไว้ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเค้าจองตั๋วขากลับบ้านให้เราตอนหัวค่ำวันนั้นเลย และนัดแนะว่า ทีมไทยเราจะไม่รอจนถึงประกาศรางวัลนะ เพราะคาดว่าเราไม่มีทางได้แน่นอน มารอบนี้ถือเป็นประสบการณ์เพราะเป็นงานแรกด้วย บ่ายๆเราจะเดินทางไปสนามบินเตรียมบินกลับบ้านกันเลย

โมที่ส่งประกวดทั้งหมด ถูกวางไว้ในลานกว้าง และล้อมรั้วไม่ให้คนเข้าไปชม มีกรรมการชาวญี่ปุ่นหลายคนเดินดูอย่างพิถีพิถันมาก กรรมการแต่ละคนนั่งดู ยืนดู ส่องไฟดู แล้วก็คุยกัน พอกรรมการมาหยุดมองโมของเรา เราก็ลุ้น เค้าคุยกันอะไรก็ฟังไม่ออก กรรมการคนหนึ่งที่เด่นมากๆและทุกคนก็จะคอยคุยคอยถามกับคนนี้ เป็นคุณลุงญี่ปุ่นท้วมๆหน่อย “คุณ คาวางูจิ” เอง แต่ตอนนั้นผมเองยังงงๆ ไม่รู้หรอกว่าแกเป็นใคร

สุดท้ายช่วงบ่ายมันผิดคาด มีข่าวลือมาว่า ประเทศไทยได้รางวัลกับเค้าด้วย แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าเป็นของผมหรอก เพราะคิดว่าของน้องมืออาชีพที่ไปด้วยกันได้มากกว่า ทาง Staffไทย ก็ยังยืนยันว่าไม่เป็นไรถึงได้รางวัลก็คงเป็นรางวัลเล็กๆ ไม่ต้องรับก็ได้ เราเตรียมเดินทางไปสนามบินเลยเดี๋ยวไม่ทัน .... กำลังจะเตรียมออกเดินทางไปอยู่แล้ว มีstaffญี่ปุ่นเดินมาคุยกับ staff ไทย และทางไทยดูเครียดๆนิดๆ สรุปผลออกมาว่า ประเทศไทยได้แชมป์ในงานนั้น ตัวที่ได้คือผลงานของผมเอง แถมถูกบังคับให้อยู่ขึ้นรับรางวัล  .... วินาทีนั้นคือ อึ้ง ครับ ดีใจ แต่มันงง และอึ้งมากกว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเรา เป็นไปได้ไง โมที่ทำง่ายๆ กลับชนะทุกประเทศ ได้เป็นแชมป์ในงาน Asia Cup ครั้งแรก ต้องใช้คำว่า โชคดีล้วนๆ ตั้งแต่ได้เป็นตัวแทนมาแล้ว และโชคดีที่กรรมการชอบผลงาน มองข้ามความยากง่ายต่างๆไปหมด คอนเซ็ป “Spirit of Dragon, Spirit of Asia” ใช้ได้ผล



โชคดียังไม่หมดแค่นั้นครับ พอประกาศผล เดินขึ้นเวทีรับรางวัลเสร็จ สุดท้าย คุณ คาวางูจิ เดินมามอบ PG ทอง ตัวนึงให้เป็นของรางวัล surprise จากทางBandai ซึ่ง PG ทองนั้น ไม่ได้อยู่ในลิสของรางวัลที่ผู้ชนะจะได้รับด้วย แต่ให้เพิ่มมา
ซึ่ง ณ.วันนั้น ผมก็ประหลาดใจว่ามันมี limited 30 ตัวซึ่งประกาศรายชื่อไปครบแล้วในปี 2002 นี่นา มีมาให้ผมอีกตัวได้ไง ผมจึงได้สอบถามคุณคาวางูจิ และทีมงาน ก็ได้รับคำตอบเพียงว่า เป็นรางวัลพิเศษ Surprise จากทาง Bandai สำหรับผู้ชนะรายการนี้ครับ ได้มาก็ดีใจ ทีมไทยที่ได้เป็นตัวแทนไปงานนี้ ทั้ง พี่ก๊อบ น้องแหน น้องปั้น พวกเรา 4 คนดีใจมากครับ ชูถ้วย ชูกล่องทอง แบบมันภูมิใจอ่ะ ว่าไทยได้โว้ยย...  ขอบคุณทุกคนที่ไปด้วยกันอีกครั้ง ณ.ที่นี้ครับ



ได้ PG กล่องทองมา ผมก็ได้แต่เก็บไว้ จนเลิกเล่นGunPla ไปเป็น 10 ปี ขุดมาอีกทีกลายเป็นของ rare หายากไปซะอย่างนั้น ตามกระทู้ก่อนหน้านี้
https://pantip.com/topic/36789648



ผลงานที่ชนะการแข่งขัน Asia Cup 2003
ชื่อผลงาน Spirit of Dragon, Spirit of Asia
รางวัล
Reginal Champion - Thailand
Grand Final Champion - Asia Cup



ดูภาพผลงานเพิ่มเติมที่กระทู้นี้ http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=43782.0

พอได้รางวัลกลับมาเมืองไทย ผมได้รับการต้อนรับจากพี่น้องไทยกันดั้ม และเพื่อนๆที่เล่นโมด้วยกันอบอุ่นผ่านทางเวปบอร์ดเป็นอย่างมาก จากนั้นก็นัด meeting กัน เล่าประสบการณ์ที่น่าประทับใจนี้ให้ฟัง เสียดายยุคนั้นไม่มีเฟสบุ๊ค จะได้ Live สดจากในงานมากได้ แค่จะส่งข่าวบอกเพื่อนว่าได้รางวัลยังต้องยอมเปลืองค่าโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศโทรกลับมาบอก ... สื่อต่างๆในยุคนั้นส่วนใหญ่เป็นนิตยสาร ก็มีลงให้อยู่บ้าง ผมรวบรวมได้ประมาณนี้ครับ (หาจากในเน็ทไม่เจอเลย)



ภาพในหนังสือต่างประเทศ ตามจริงมีใน Hobby Japan ด้วยแต่หาไม่เจอแล้วครับ









ได้มีโอกาสเขียนบทความเล่าเรื่องงานประกวด Asia Cup ให้นิตยสาร Mast









Hobby Model หนังสือฮิตสมัยนั้น









ได้ลงหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ Nation Junior



หน้าปกเป็นโมที่ทำเอง









Quest News











กลับมาจากประกวดที่ฟลุ๊กได้แชมป์มา ทีแรกตั้งใจอย่างแน่วแน่ครับว่า ความฟลุ๊กมีได้แค่ครั้งเดียว รักษาความฟลุ๊กนี้ไว้เป็นเกียรติประวัติ จะไม่ส่งประกวดอีกแล้ว 555 ปีต่อมา 2003- 2004 ก็เลยไม่ส่งประกวดแล้ว เป็นกองเชียร์ดีกว่า

ปี 2005 วงการ GunPla เริ่มขยายวงกว้าง งานประกวดจาก Asia Cup ก็ขยายไปเอาประเทศในทุกทวีปทั่วโลกมาร่วมด้วยเหมือนเป็น World Cup เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นงาน Bandai Action Kits “Univeral Cup” (BAKUC) ให้มันยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก ตอนนั้นคิดในใจสุดยอดเลย อยากไปดูบรรยากาศอีกสักครั้งจัง.... บังเอิญในปี 2005 ช่วงนั้นกำลังบ้าการ์ตูนที่ชื่นชอบในอดีต Saint Seiya ที่ออกของเล่นซีรีย์ Saint Cloth Myth มาจำหน่าย ชอบมากแบบตามเก็บซื้อทุกตัว พอออก Gold Cloth มาด้วยยิ่งยอมเก็บตังตามซื้อเลย แต่มันขัดใจตรงแต่ละตัวกว่าจะออกมา ออกช้าจัง ประจวบเหมาะกับในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน เค้าอัพเกรดเกราะเซย่า ไปเป็น God Cloth แล้ว แบบชอบมาก God Cloth นี่อยากได้อยากให้ Bandai ทำออกมาขาย แต่ตอนนั้นยังเป็นแค่ภาพวาดลายเส้นขาวดำอยู่เลย อนิเมก็ยังไม่มี สีเป็นแบบไหน จะเป็นสีทอง หรือสีเงิน ยังมีแต่คนถกเถียงกันอยู่ เพราะงั้นทำเองเลย ออกมาเป็นผลงานนี้ครับ Seiya God Cloth ตามจินตนาการของผมในสมัยนั้น



ทำเสร็จก็มีคนชอบ ฝรั่ง ญี่ปุ่นเอาไปโพสในบอร์ดต่างๆ ถึงกับมีฝรั่งอีเมลล์มาถามขอซื้อแบบราคานี้ อืมม อยากขายจัง แต่สุดท้ายก็ไม่ขาย เก็บไว้เป็นที่ระลึกดีกว่า ผลตอบรับดีแสดงว่าคนชอบเลยได้ไอเดีย เอาแบบนี้แหละท่าจะเวิร์ค จับทำใส่กันดั้มบ้าง เลยออกแบบจับไอเดียนี้ไปใส่ใน MG Gyan ที่เพิ่งออกมาไม่นานสมัยนั้น ผมนั่งทำไปเรื่อยตามสไตล์เดิมๆ ค่อยๆหาวิธีทำแต่ละส่วน ลองทำ เสียก็ทำใหม่ พ่นสีไม่สวยก็ขัด ล้างทำใหม่ ไม่รีบร้อน ด้วยเทคโนโลยี และข้อจำกัดเรื่องวัสดุอุปกรณ์สมัยนั้น การทำให้สีเงินแวววาว เป็นชุบโครเมียมนั้นยากมาก ตัวนี้ก็เลยใช้เวลานานหน่อย ทำเกือบทุกวันช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน ถึงดึกๆ เป็นเวลาหลายเดือน ก็เสร็จทันส่งประกวด Universal Cup รอบประเทศไทยในปีต่อมา 2006

ผลจากความพยายามทำให้ชนะรอบประเทศไทยไปได้ ได้ไปต่อรอบ Final ที่ฮ่องกงอีกครั้ง เอาแม่ไปด้วยอีก รอบนี้ตอนทำโมแม่ไม่ว่าแล้ว เลยตอบแทนท่านพาไปอีกเหมือนเป็นโค๊ชส่วนตัว ไปถึงงานอลังการอีกเช่นเคย แต่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะจัดพร้อมงาน Gundam Expo 2006 ไปด้วยเลย (มีGunPla ตัว limited ออกมาในงานนั้นหลายตัวทีเดียว) โมที่เป็นตัวแทนของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมนี่ ปีนี้เรียกได้ว่าสุดยอดแบบเกินคำบรรยาย มีประเทศนึงเอาโมใส่ลังไม้ขนาดใหญ่ขนส่งมาต่างหาก เป็นไดโอรามาขนาดกว้างคูณยาวเป็นเมตรเลยทีเดียว ทำเอาอึ้งกันไปตามๆกัน (รู้สึกผลการตัดสินจะได้รางวัลชมเชย) ด้วยเครดิตที่เคยได้แชมป์ในครั้งแรก ที่คู่แข่งขันจากประเทศอื่นๆทุกคนรวมทั้งผู้จัดงานก็ทราบดี เลยทำให้เป็นที่จับตามองในงานพอสมควร เรียกได้ว่ามาคราวนี้ถึงเป็นผลงานชิ้นเล็กๆก็ไม่น้อยหน้าประเทศอื่น ผลสรุป ปีนั้นโชคดียังมีอยู่ ด้วยความแปลกประหลาดของผลงานในสายตากรรมการสมัยนั้น ยังทำได้ได้รางวัล 1st Runner Up มาได้ และก็ได้ PG Zaku กล่องแดง จากคุณ คาวางูจิ อีกรอบ



ที่อยู่ในกล่องอคิริลนี่ผลงานคู่แข่งจากประเทศอื่นนะครับ เห็นแล้วสุดยอดมาก



ใส่เสื้อแจ๊คเก็ตตัวเดิมกับเมื่อปี 2003 กะว่าเป็นเสื้อนำโชค





ทำให้ได้กล่องแดงจาก คุณคาวางูจิ มาอีกกล่อง











หลังจากกลับจากงานประกวดปีนั้นปุ๊บ ก็มีประกาศจาก Bandai ตามหลังมาทันทีเลยว่า เพิ่มกติกาใหม่ไม่ให้คนที่เคยได้แชมป์นี้แล้วเข้าประกวด ถ้าต้องการส่งผลงานจะให้ไปส่งผลงานเป็นงานโชว์ประเภท Expert แทนซึ่งจะไม่มีการตัดสินให้ ซึ่งก็มีผลกับผมแบบตรงๆ ด้วยกติกาใหม่นี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมค่อยๆเฟสตัวออกจากวงการไป บวกกับแต่งงานมีครอบครัว มีลูกๆเล็กๆ 2 คน เลยเลิกงานอดิเรก ทุ่มเททำงาน เลี้ยงลูก2คน มาถึงปัจจุบันผมเป็นคนนอกวงการ และไม่ได้จับโมเดลกันดั้มอีกเลยครับ (แต่ยังมีงานอดิเรกเหลืออยู่บ้างนะครับ กลายเป็นป่าป๊าชอบถ่ายรูปลูกๆไป และถ่ายภาพวิวต่างๆ ถ้าเห็นภาพมีชื่อ Photo by Bigg sirirojwong ก็ภาพผมถ่ายเองครับ)

ผลงานที่ชนะการแข่งขัน Bandai Action Kits Universal Cup (BAKUC) 2006
ชื่อผลงาน Victory
รางวัล
Reginal Champion - Thailand
1st Runner up - Universal Cup



ดูภาพผลงานเพิ่มเติมที่กระทู้นี้ http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=43783.0

*เพิ่มเติม สื่อที่ผมพอหาเจอกับงานปี 2006 นี้

Hobby Toys & Models









มาต่อเรื่องพัฒนาการของงานประกวดครับ

ปี 2009  ปีที่กันดั้มครบรอบ 30 ปี มีอนิเมกันดั้มซีรีย์ใหม่ gundam build fighters ออกฉาย ทาง Bandai เลยเปลี่ยนไปเรียกคนชอบทำโมเดลคิดกันดั้ม จากเดิมเรียก Modeler ไปเป็น Builder ตามกระแสอนิเม และเปลี่ยนชื่องานประกวดประจำปีไปเป็น GunPla Builders World Cup (GBWC) จากวันนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ และเป็นที่น่าภาคภูมิใจที่ได้ทราบข่าวว่า น้องรุ่นหลังก็สามารถเอาชนะเป็นแชมป์ในงานนี้ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ยินดีด้วยครับ



ผมเล่ามาได้จนถึงแค่นี้ครับ เพราะยุคของผมนั้นผ่านไปแล้ว ยุคต่อๆไปก็เป็นหน้าที่ของพี่ๆน้องๆที่ยังอยู่ในวงการช่วยกันสร้างสรรค์ต่อไป เป็นกำลังใจให้และขอบพระคุณครับ


ผิดพลาดหรือข้อมูลคลาดเคลื่อนประการใดขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ
สุดท้ายขอขอบคุณพี่ๆท่านผู้อาวุโสทุกท่านที่พูดคุยรื้อฟื้นความทรงจำดีๆของผมในอดีต และได้ให้ข้อมูลต่างๆในบทความนี้ครับ

พี่ BOY TG
พี่ บก.อึ่ง
พี่ โน
น้อง Best TG

ส่วนผม ณ.ปัจจุบันชอบถ่ายภาพมากกว่า เป็นงานอดิเรกเช่นกัน มีเพจส่วนตัวไว้บันทึกความทรงจำต่างๆติดตามได้ใน FB: ป่าป๊าพาไป
https://www.facebook.com/bigg.sirirojwong



ทิ้งท้ายนิดนึงครับ

งาน GunPla Expo Thailand 2017 ที่จัดที่สยามพารากอน วันที่ 29 กย.- 8 ตค. นี้ จะมีโมเดล 2 ตัวที่ได้รางวัลไปโชว์ในงาน พร้อมกับ PG กล่องทอง ครับ ใครอยากเห็นตัวจริงไปชมได้ในงาน

และในวัน ศ.ที่ 29 กย.นี้ ประมาณบ่าย 2 ครึ่ง ผมจะมีไปร่วมในงานด้วยครับ แล้วเจอกันครับ



ปล. ผมกลายเป็น "หนุ่มดวงเฮง" แฮะ ก็เฮงจริงๆน่ะแหละ ฟลุ๊กๆ มาตลอด


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 28, 2017, 06:21:36 PM โดย moobest »

ออฟไลน์ luckytoffee

  • TG STAFF
  • ลองพ่นแอร์บรัช
  • *
  • กระทู้: 599
  • Like: 28
  • เพศ: ชาย
  • MG Collecter [TrI] นะจ๊ะ จุ๊บุ จุ๊บุ
Re: บทความพี่ BIG TG กับ Gunpla ที่หายากที่สุด
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 28, 2017, 11:18:21 PM »
นานมากๆ จนแทบจำไม่ได้แล้ว
ไม่เคยเจอคุณ BIG TG เลยสักครั้ง เจอแต่พี่ BOY  ,,, 555

"ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ เลยมีหลายคนไม่เคยทุกข์ อิ ๆ"

ออฟไลน์ BIG TG

  • TG STAFF
  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 39
  • Like: 9
  • เพศ: ชาย
    • BIG FAT UGLY---Hi5
Re: บทความพี่ BIG TG กับ Gunpla ที่หายากที่สุด
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 29, 2017, 01:47:31 AM »
ขอบคุณมากครับ :iconvsign:

ออฟไลน์ NeoX

  • กัน-โอตะ
  • *****
  • กระทู้: 1,470
  • Like: 41
  • เพศ: หญิง
  • HG Collecter [BlAcK] เถิดเทิง
Re: บทความพี่ BIG TG กับ Gunpla ที่หายากที่สุด
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 29, 2017, 08:34:26 AM »
บอกเลยถ้าเจอพี่บิ๊กตอนนี้ ยังไงก็จำไม่ได้ครับ...

นานมากกก ...นานมากแล้วจริงๆ....

ล่าสุด น่าจะเป็นตอนที่ มีทตั้ง ที่ เซ็นทรัลชิดลม...

ยุคนั้น เต็มที่ ก็ MSN ไม่ก็ข่าวคราวตามหน้าหนังสือโมเดลต่างๆ ที่พอจะหาได้บ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 29, 2017, 08:36:05 AM โดย NeoX »

ออฟไลน์ AmuroAznable

  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 37
  • Like: 5
  • R.I.P Yamcha
Re: บทความพี่ BIG TG กับ Gunpla ที่หายากที่สุด
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2017, 03:05:26 PM »
เป็นบทความที่อ่านแล้ว รับรู้ได้ถึงความสุดยอดของวงการกันพลาไทยจริงๆครับ ในฐานะที่ผมเป็นมือใหม่มากๆ รู้สึกภูมิใจจริงๆกับสิ่งที่พี่ๆได้สร้างมา ประทับใจกับบทความนี้มากๆเลยครับ

ออฟไลน์ AmuroAznable

  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 37
  • Like: 5
  • R.I.P Yamcha
Re: บทความพี่ BIG TG กับ Gunpla ที่หายากที่สุด
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2017, 05:12:27 PM »
อ่านกระทู้จบแอบโดดงานไปดูเลยยครับ 555 งานดีมากกกกกก เป็นบุญตาสุดๆ


ออฟไลน์ kookuu

  • Verified User
  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 24
  • Like: 4
Re: บทความพี่ BIG TG กับ Gunpla ที่หายากที่สุด
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2017, 11:36:31 AM »
ขอบคุณสำหรับการเผยแพร่บทความดีๆ ให้ได้อ่านกันนะครับ

ออฟไลน์ chanapa

  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 1
  • Like: 0
Re: บทความพี่ BIG TG กับ Gunpla ที่หายากที่สุด
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2017, 06:30:20 PM »
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ