Muv-luv Alternative Total Eclipse
Op ของ Muv-luv Alternative ภาค Total Eclipse ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=m35bTVBe0yI&feature=player_embedded ----------------------------------------------
ชิรานุย นิกะตะ(ชิรานุย รุ่น2/ชิรานุย เซคันด์ (เซนจุตสุกิรุ่นทดสอบแบบที่ 1) (XFJ-01) จากความคาดหวังที่จะมีแผนการในการเพิ่มกำลังรบของกองทัพให้มากขึ้นของกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นจนกว่าจะมีการผลิตเซนจุตสึกิรุ่นใหม่ออกมาได้ จึงได้ใช้ชิรานุยเป็นรากฐานในการปรับปรุงเพื่อใช้ทดแทนจนกว่าจะถึงเวลานั้น โดยในขั้นตอนการพัฒนาได้ทำการเปลี่ยนเจเนเรเตอร์ของตัวหุ่นไปใช้เป็นขนาดใหญ่เพื่อเอาท์พุทที่มากขึ้น ซึ่งผลที่ได้คือ "ชิรานุย อิจิคะตะไทเฮย์" ทว่าเครื่องที่ได้นั้นกลับใช้เชื้อเพลิงมากกว่าที่คำนวณไว้ และเป็นเรื่องยากในการปฏิบัติการปกติด้วยระยะเวลาที่ลดน้อยลง การผลิตชิรานุยรุ่นนี้จึงถูกหยุดลงโดยที่ยังมีจำนวนไม่ถึงร้อยเครื่อง เพื่อให้แผนนี้สำเร็จได้จึงเข้าร่วมมือกับอเมริกาแล้วจัดตั้งแพลน XFJ ขึ้นและทำการค้นคว้าอีกครั้ง โดยผลที่ได้ก็คือ "ชิรานุย นิกะตะ"
ชิรานุย นิกะตะ นั้นได้แก้ไขเรื่องระยะเวลาปฏิบัติการที่สั้นของ ชิรานุย อิจิกะตะไทเฮย์ โดยการใช้พาร์ทจัมพ์ยูนิตรุ่นใหม่ล่าสุดจากบริษัทเจเนรัลอิเล็คโทรนิคของอเมริกามาเสริม และเครื่องยนต์รุ่น F140 ที่ใช้เชื้อเพลิงน้อยแต่ได้กำลังเครื่องที่สูง ในช่วงแรกของการทดลองได้เกิดปัญหาขึ้นมากมายจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ แต่หลังจากได้ทดลองในสนามรบแล้วก็มีผลลัพธ์ที่ดีให้เห็นเช่นกัน
ในช่วงที่สองของโครงการ บริษัทฟินิกซ์และโบนิงค์ได้เข้าร่วมในการปรับปรุงโครงสร้าง ซึ่งทำให้ชิรานุย นิกะตะ มีรูปร่างอย่างที่เห็น ส่วนหัวได้ใช้เทคโนโลยีอินฟาเรดล่าสุดรวมถึงสามารถใช้สะกดรอยเป้าหมายได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดกลยุทธ์ทางการรบใหม่ๆมากขึ้น ส่วนไหล่เพิ่มท่อทรัสเตอร์ทั้งสองข้างและปรับปรุงโครงสร้างส่วนขาที่บรรจุเชื้อเพลิงได้มากขึ้นทำให้การเคลื่อนไหวมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม ส่วนสะโพกเองก็เพิ่มท่อขับดันเช่นกัน
ต่อมาบริษัทโบนิงค์ที่ได้รับเทคโนโลยีจาก SU-37 ของโซเวียตจึงได้เพิ่มประสิทธิภาพในการรบระยะประชิดตัวขึ้นไปอีกด้วยท่อขับดันเสริมตามจุดต่างๆ ทำให้การเคลื่อนไหวเน้นใช้ท่อขับดันมากกว่าการเดิน ต่อมาเซนเซอร์ส่วนหัวได้รับการพัฒนาอีกครั้งตามแบบของกองทัพญี่ปุ่นโดยติดเซนเซอร์มาสต์ไว้ประมวลผลสภาพโดยรอบเพื่อให้ควบคุมได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นการพุ่งขึ้นสูงหรือตีลังกากลับหลัง ส่วนแขนมีมีดสั้นเก็บไว้ภายในซึ่งสามารถดีดออกมาให้ถือได้อัตโนมัติในเวลาอันสั้นจึงเปลี่ยนรูปแบบการรุกเข้าประชิดได้รวดเร็ว ส่วนแขนกลที่หลังนั้นก็ไวพอจะส่งดาบให้ถือได้ในระยะเวลาเพียงวินาทีเดียวเท่านั้น
ในปี 1999 การพัฒนาได้ถูกหยุดชะงักลงชั่วคราวโดยจักรวรรดิญี่ปุ่นเพื่อปรับปรุงเกคิชินซึ่งตกยุคแล้วให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง ทว่าเมื่อมีการพัฒนาทาเคมิคาสึจิขึ้น แผนการปรับปรุงชิรานุย นิกะตะ จึงมีทีท่าว่าจะถูกหยุดลงไป จึงต้องรีบเร่งการพัฒนาขึ้นไปอีกเพื่อให้ทันใช้งาน
ทว่าการพัฒนาชิรานุย นิกะตะนั้นก็ไม่ได้รับการยอมรับจากจักรวรรดิญี่ปุ่นมากนักเนื่องด้วยเป็นการขัดกฏที่จะไม่ใช้ชิ้นส่วนที่เป็นของนอกประเทศทำให้ทีมพัฒนานั้นมีความกดดันสูงขึ้นไปอีก ทว่าในที่สุดก็ไกล่เกลี่ยกันได้โดยการเพิ่มบริษัทที่เข้าร่วมมาอีกหนึ่งบริษัทคือคาวาซากิ และต้องพัฒนาให้ได้ตามที่จักรวรรดิขอ 3 ข้อคือ
1. ต้องมีประสิทธิภาพเทียบเท่ารุ่นที่สามของต่างประเทศ เช่น EF-2000ไทฟูน หรือ F-22A cixg9viN
2. ระยะเวลาทำการมากขึ้นอย่างน้อย 30%
3. มีอัตราการผลิตได้มากและคุ้มค่า
ด้วยเหตุนี้บริษัทโบนิงค์จึงได้นำข้อมูลของ F-15ACTV แอคทีฟอีเกิ้ลเข้ามาเสริมในส่วนของท่อขับดันที่ทรงพลังขึ้นไปอีก และปรับปรุงส่วนขาให้ทนทานขึ้นจนได้รับการยอมรับ ซึ่งการปรับปรุงครังนี้เริ่มในปี 2001 ที่ฐานทัพอลาสก้า และได้นำข้อมูลของชิรานุย อิจิกะตะไทเฮย์ที่ล้มเลิกไปกลับมาใช้เสริมอีกครั้งหนึ่งในการพัฒนา และได้เสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างโดยรวมอีกครั้งหนึ่ง และเครื่องทดสอบที่ 2 ก็ออกมาและให้เป็นเครื่องของอันดับ 2 หน่วยอากอส ซึ่งทั้งหมดคือการพัฒนาในชื่อ โปรเจคต์ โพรมิเนนซ์
เครื่องแรกเป็นของร้อยตรียูยะ บริดจ์ โดยทาสีใหม่จากเครื่องทดสอบสีขาวแดงให้กลายเป็นสีขาวโมโนโทน เครื่องยนต์จัมพ์ยูนิตใช้แบบ F140
เครื่องที่2 เป็นของร้อยตรีทาริสะ มานันดัล ในโทนสีม่วงเทาและเครื่องยนต์จัมพ์ยูนิตรุ่น Platts & Whitney F133-PW-100
และเครื่องรุ่นล่าสุดเป็นของหน่วย11กองทัพญี่ปุ่น ใช้ในปฏิบัติการ “เรนเท็ตซึ” ในปี2003 เดือน 4 ในรหัส XM3 ซึ่งถือเป็นเครื่องทดสอบรุ่นสุดท้ายก่อนจะเริ่มทำการผลิตจำนวนมากในปี2004
Credit : (ขอบคุณน้องโด้คุงที่แปลบทความมาให้ครับ)----------------------------------------------
(ภาพจากนิตยสาร ฮอบบี้ เจแปน ครับ) ชิรานุย นิกะตะ (สีเครื่องตอนเปิดตัว) นั้นเคยออกมาเป็นแอคชั่น ฟิกเกอร์ ในซี่รี่ส์ A3 ของค่ายโวล์คมาแล้วครั้งนึงครับ
รูปทรงนั้นออกมาดูดีทีเดียวครับ แต่พอค่าย โคโตฯ ออกมาใหม่เป็นพลาโม ดันสวยกันแบบกินขาดซะงั้น
ในส่วนของโมเดลนั้น ก็มาเป็นกล่องที่ 3 ในซี่รี่ส์นี้ครับ ซึ่งผมเองในฐานะที่เป็นแฟนซี่รี่ส์นี้ ก็ยังตามซื้อเก็บอย่างเมามันส์อยู่ดี (เสียเงินแบบเต็มใจเลยนะเนี่ย)
มาเริ่มดูกันที่ส่วนของอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องนี้ก่อนเลยครับ
จะเห็นว่ายกชุดอาวุธมาจาก ทาเคมิคาซึจิ มาเกือบหมดเลยทีเดียวครับ
ในกล่องก็ยังมีฐานที่สกรีนชื่อหุ่นมาให้เหมือนกล่อง ทาเคมิคาซึจิ -00F ครับ แต่ฐานมาในสีขาวขุ่น
มุมมองส่วนต่างๆ ครับ (สภาพตัวเครื่องเปล่าๆ ไม่ติดชุดอาวุธครับ)
ถ่ายรูปคู่กับหน้ากล่อง ขนาดกล่องก็พอๆ กับกล่องไซส์ MG ขนาดมาตรฐานเลยครับ
ขอบอกว่า ไอ้เจ้าสัญลักษณ์ขีดๆ ที่หน้าผาก บังพ่นยากมาก~ เพราะเล็กนิดเดียวเอง
(เล็กมิลลิเมตรอีก กว่าจะแปะเทปหมด แทบแย่....) แต่ออกมาดูดีไม่มีเบี้ยว ก็ OK ละนะครับ
เขี้ยวปรับทิศทางของทรัสเตอร์ที่หัวไหล่ก็ขยับได้ด้วยนะ
ชิ้นที่ตา เป็นชิ้นใสสีเหลืองที่มีมาในกล่องนะครับ (แปะไปยังงี้ มองแทบไม่เห็นเลยอะ...OTL)
มีดสั้นที่เก็บไว้ที่ข้อศอก ทำแบบดีดกลับมาส่งมีดได้ด้วยนะครับ
ปืนกลนี่ก็อันเดิมเลยจากกล่อง ทาเคมิคาซึจิ
(รวมของกล่องนี้ หมึกประกอบ อุดขัดปืนรุ่นนี้มาแล้วรวม 12 กระบอกเลยนะเฟ้ย!!)
ติด เบลดเมาท์ และกันเมาท์ ที่ด้านหลังครับ
สภาพติดชุดอาวุธครบครับ
กล่องนี้จะพิเศษหน่อย เพราะทางโคโตฯ ใจดี แถมดีคอลน้ำมาให้ในกล่องด้วยเลยครับ
แต่แปะลำบากน่าดู เพราะจัมฟ์แพ็ค ต้องมาค่อยๆ ตัดขอบดีคอลแล้วแปะๆ ไปที่ละส่วน
พอเริ่มประกอบผมก็รู้เลยครับ ว่าโมเดลกล่องนี้ ไม่ได้แยกสีมาเพื่อทำเป็นกล่องนี้ (งงไหมครับนิ?)
เพราะจากการแยกสีหลายๆ ชิ้น (รวมทั้งชิ้นที่แยกสีมาให้ผิดด้วย...) ทำให้รู้เลยว่า ทางโคโตฯ
กะจะย้อมแมวขายกล่องเครื่องสีของยูยะ กับ ทาริสะ มาแน่ๆ เลยครับ ทำให้มีหลายชิ้นที่ต้องมานั่งบังพ่นกัน
แต่ที่ยากมากๆ ก็คือแถบสีแดงที่ข้างขาและข้างแขน ลำตัว ครับ เพราะมันต้องบังเทปเส้นยาวๆ ตามพื้นผิวที่โค้งละนะ
ส่วนของสีขาวที่เป็นสีหลักนั้น เป็นครั้งแรกที่ผมมาใช้สีขาวของไกอา แทนที่จะใช้สีของเลย์แลนด์เหมือนเดิมๆ
ปรากฏว่ามันใช้ดีจริงๆ นะครับ พ่นแค่รอบเดียวก็ขึ้นขาวแล้ว
สีขาวของกล่องนี้ ผมพ่นแค่ชิ้นละ 2 รอบเองนะครับ ใช้ดีจนแทบจะลืมสีเลย์แลนด์เพื่อนยากไปเลย
สีที่ใช้ในครั้งนี้ครับ
สีขาว - ขาวไกอา
สีแดง - แดง 68
สีเทา - เทา 116
สีดำ - น้ำเงิน 71
เหลือง - เหลือง 4 + เหลือง 109 + ขาวนิดหน่อย
สีเงิน - สีเงิน 8 + สตีล 28
----------------------------------------------
สุดท้ายก็ของแถมรอบนี้ครับ เพราะเป็นเครื่องสีเปิดตัว
ก็เลยวาดมาเป็นฉากประมาณงานเปิดของน้องชิรานุย
"ครั้งแรก"
สำหรับของแถมในบล็อก จะเป็นรูปแบบไม่มีตัวหนังสือกับขนาดใหญ่ๆ เลยด้วยครับ สนใจไปดูกันได้นะครับ
http://butter-t.exteen.com/20110505/model-muv-luv-1-xfj-01อา...ชะตากรรมของน้องชิรานุยจะเป็นเช่นไร โปรดติดตามตอนต่อไปครับ............ (ฮา)
ส่วนของหุ่นตัวอื่นๆ เข้าไปดูได้ที่ ส่วนของ Model Gallery ในบล็อกของผมได้ครับ^^
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมนะครับ ไว้พบกันใหม่ครั้งหน้าครับผม~
.
